จากการแข่งขันมวยสากล เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” ที่หางโจว สาธารณรัฐประชานจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ในรอบก่อนรองชนะเลิศ รุ่น รุ่น 63.5 กก. ชาย ระหว่าง บรรจง สินศิริ พบกับ โช ชอลมัน นักชกจากเกาหลีเหนือ ซึ่งเพียง ยกแรก ในขณะที่กำลังดวลหมัดกันอยู่นั้น ศรีษะของทั้งสองคนเกิดกระแทกกัน ซึ่งผู้ตัดสินมองว่าเป็นทางนักชกโสมแดงที่เข้ามาชนกับ บรรจง ทำให้บรรจงเกิดแผลที่เหนือคิ้วขวา จึงยุติการชกและชูมือให้นักมวยชาวไทย ชนะไป โดยคะแนนในยกแรกจากกรรมการที่รวมแล้วให้บรรจง ชนะ 3-2 ด้วยคะแนน 9-10, 10-9, 10-9, 10-9 และ 9-10 ได้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะชกในคืนวันที่ 3 ต.ค.2566
ท่ามกลางความห่วงใย ต่อนักชกไทยต่อแผลที่เกิดขึ้นเหนือคิ้วด้านขวาซึ่งใหญ่พอสมควรนั้น นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา ได้เปิดเผยว่า หลังจากการชกเสร็จและนักกีฬากลับถึงที่พักในหมู่บ้านนักกีฬา ตนเองได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ของ กกท.ที่อยู่ศูนย์อำนวยการ ในหมู่บ้านนักกีฬา ได้พา บรรจง ไปให้แพทย์ตรวจอย่างละเอียด และได้เย็บแผลด้านในคืนที่ผ่านมาเลย ซึ่งในการชก ในวันที่ 3 ต.ค.2566 ซึ่ง บรรจง จะชกกับ มองโกเลีย รอบรองชนะเลิศ ตนเองได้คุยกับทางทีมงานมวยสากล ก็ทราบว่าในช่วงเช้าบรรจงก็มาให้แพทย์ประจำศูนย์ล้างแผลให้ ก็เป็นที่น่ายินดีที่แผลไม่บวม เมื่อเช้ายังสามารถซ้อมเบา ๆ ได้เพื่อทำน้ำหนักตัวได้ปกติ ก็เป็นที่น่าดีใจ ที่เขามีอาการไม่น่าห่วงใยและพร้อมลุยต่อ แต่ก็ฝากให้น้องในศูนย์อำนวยการให้ดูแลต่ออย่างใกล้ชิด
ซึ่งก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทางสมาคมกีฬามวยสากล ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.ก้องศักด ยอดมณี และหลายฝ่าย รวมทั้ง ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ได้สอบถามมาด้วยความเป็นห่วง ตนเองก็ได้แจ้ง และย้ำหลังทราบจากทีมงานมวยสากลว่า บรรจง นั้นใจเกินร้อยแน่นอนในการชกรอบรอง ซึ่งทุกคนที่สอบถามก็หมดห่วงและฝากให้กำลังใจต่อบรรจงและนักชกไทยทุกคนที่ต้องทำหน้าที่ต่อไป นายประชุมกล่าว