จากกรณีที่ เมืองลอสแอนเจลีส ของสหรัฐ จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2028 หรือ LA28 และมีการจับตามองกีฬาที่จะถูกผลักดันเข้าสู่การจัดชิงเหรียญทองในการแข่งขันครั้งนี้ในกลุ่มกีฬาที่เจ้าภาพจะเลือกจัดเพิ่มเติม ซึ่ง 1 ในนั้นมีกระแสอย่างมากว่าเจ้าภาพจะเลือกกีฬา คิกบ๊อกซิ่ง นั้น
ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า คิกบ๊อกซิ่ง ไม่มีโอกาสที่จะเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ 2028 เป็นที่แน่นอนแล้ว โดยการอ้างเอกสารการติดต่อกันภายใน
ในเรื่องนี้ The Station THAI ได้ติดต่อ ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในฐานะผู้มีส่วนร่วมระดับสูงในการบริหารองค์กรกีฬามวยไทยและคิกบ๊อกซิ่ง และได้รับการเปิดเผยต่อเรื่องนี้ว่า เอกสารที่กล่าวถึงนั้นได้รับทราบแล้วเหมือนกัน และรับรู้ว่าโอกาสของคิกบ๊อกซิ่งคงไม่มีในกีฬาที่ LA28 จะจัดหนนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากว่ากันอย่างเป็นทางการนั้นก็ยังไม่ถือว่าได้รับการปฏิเสธอย่างเป็นทางการ เพราะ สมาคมองค์กรคิกบ๊อกซิ่งโลก (World Association of Kickboxing Organizations) หรือ WAKO ยังรอการยืนยันสุดท้ายในเร็ว ๆ นี้อีกครั้ง
ดร.สุปราณี เปิดเผยต่อไปว่า WAKO เขานำเอาประเภท K1 ที่มีการแข่งขันรูปแบบที่คล้ายมวยไทยกว่า50 % นำเสนอต่อฝ่ายจัดโอลิมปิกเกมส์2028 อย่างเดียว แต่ K1 จะจุดเด่นคือมีวิธีการแข่งที่ง่าย ดูปลอดภัย และพิธีการไม่มากเหมือนมวยไทย ซึ่งตอนนั้นเมื่อทางสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ หรือ IFMA ทราบก็ได้ทำการทักท้วงไปที่ WAKO และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เปลี่ยนนำ K1 ออก ทั้งนี้ด้วยเหตุผลลึก ๆ คือ หากเขาเสนอ K1 ผ่านจริงๆ กีฬามวยไทยของเราก็จะจบเส้นทางเดินในโอลิมปิกเกมส์แน่นอน เนื่องจ่ากว่าเป็นกีฬาที่มีความคล้ายคลึงกัน หากคิกบ๊อกซิ่งนำรูปแบบที่คล้ายกันส่งไปได้รับการยอมรับก่อน มวยไทยเราก็หมดโอกาสทันที ซึ่งแม้ว่าไทยเราจะมีสมาคมกีฬาคิกบ๊อกซิ่ง และเป็นสมาชิก WAKO และอาจจะได้ประโยชน์จากการจัดแข่งเพราะเรามีนักกีฬาที่เชื่อว่าสู้ได้แน่นอนก็ตาม แต่ในภาพรวมที่ต้องมองถึงมวยไทย ที่เรามีการผลักดัน ปูทาง สร้างการยอมรับทั่วโลกมาตลอด 30 ปี รวมทั้งเป็นกีฬาทางวัฒนธรรมของไทยเรา เราและ IFMA จึงต้องค้านอย่างเต็มที่ แต่หากในอนาคตข้างหน้า ถ้ามีการเจรจากันระหว่าง WAKO และ IFMA เพื่อปูแนวทางเข้าโอลิมปิกเกมส์ร่วมกัน ตนเองมองว่าน่าจะเป็นการดีทั้งสองฝ่าย ส่วนจะมีใครมองเป็นอย่างอื่นอย่างไรนั้นก็ต้องนำมาพิจารณากันในทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดร.สุปราณีกล่าวในตอนท้าย.