นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เปิดเผยว่า การแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าทางการกีฬาแห่งประเทศไทย คณะกรรมการพาราลิมปิกฯ และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้ช่วยกันดูแลนักกีฬา โดยการเดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบินไทยเช่าเหมาลำให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมไทย รวมทั้งหมด กว่า 491 คน ที่สร้างความพึงพอใจต่อทุกคนอย่างมาก ตอนนี้การแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ซึ่งจากการรายงานจากเจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการคณะนักกีฬาไทยที่ กกท.ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยประสานงานช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกนั้น ก็เป็นที่น่ายินดีว่านักกีฬาที่เข้าร่วมทั้งหมดนั้นมีความพร้อมมาก เราก็หวังให้ทุกคนได้แสดงออกในการแข่งขันอย่างเต็มที่
ในส่วนหนึ่งที่เรากำลังลุ้นต่อนอกจากผลงานการแข่งขันในเอเชียนพาราเกมส์ครั้งนี้แล้วนั้น ก็คือ โควตาของนักกีฬาไทยที่จะได้ไปร่วมการแข่งขันการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ในปีหน้า โดยก่อนหน้านี้เราได้โควตามาแล้วจำนวน 23 คน จาก 6 ชนิดกีฬา จากการเก็บคะแนนหรือผลงานจากรายการต่าง ๆ ซึ่งทาง กกท.เราตั้งเป้าไว้ว่า รายการเอเชียนพาราเกมส์หนนี้จะต้องได้เพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง ก่อนที่จะมีรายการคัดเลือก รายการชิงแชมป์โลกที่จะคัดต่อไปหลังจากนี้ ที่ยังจะเป็นโอกาสของนักกีฬาคนพิการไทยจะได้ชิงโควตาพาราลิมปิกเกมส์ 2024 เพิ่มอีก ซึ่งจากที่คุยกันกับสมาคมเกี่ยวข้อง ก็ตั้งเป้าหมายโดยคาดกันว่าทั้งหมดของนักกีฬาไทยจะได้ไปพาราลิมปิกเกมส์ น่าจะอยู่ที่ 90 คน จากที่ พาราลิมปิกเกมส์ครั้งก่อนเราได้โควตา 68 คน
นายประชุมกล่าวต่ออีกว่า ในเอเชียนพาราเกมส์ครั้งที่ 4 นี้ ทาง กกท.และคณะกรรมการพาราลิมปิกฯ ได้รับงบสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ทั้งการเตรียมนักกีฬาและส่งแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 447.6 ล้านบาท ก็นับว่าเต็มที่กับการสนับสนุนและการเดินทาง การดูแลนักกีฬา ในครั้งนี้ ส่วนผลงานที่จะออกมาเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้หรือไม่ก็ต้องรอดูในการแข่งขันต่อไป ตนเองไม่อยากจะให้มองว่าวงเงินกับผลงานนั้นคุ้มไม่คุ้มกัน เหมือนที่มีข่าวบางกระแสในช่วงเอเชี่ยนเกมส์ ซึ่งบางสื่อบอกว่า กกท.ฉุนกับการลงทุนและผลงานที่ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่มีใครฉุนหรือโกรธอะไรกับเรื่องนั้น แต่การเข้าร่วม เริ่มจากการเตรียมทีมมานั้น นักกีฬาทุกคนทุกสมาคมมีเป้าหมายมาก่อนร่วมแข่ง เรา กกท.ก็ได้คุยกันช่วยกันสร้างความพร้อม เมื่อผลแข่งออกมาก็จะมาดูกันว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ เมื่อหากว่ามีกลุ่มกีฬาที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายก็ต้องวางแผนแก้ไขร่วมกัน ว่าเหตุจากอะไร เราไม่ดีหรือดีไม่พออย่างไร ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้นในงานต่อ ๆ ไปของทุกสมาคมที่เกี่ยวข้อง นายประชุมกล่าว.