พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำเเห่งประเทศไทย กล่าวถึงการเเข่งขันกีฬาว่ายน้ำชิงชนะเลิศเเห่งประเทศไทย ของภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ประจำปี 2565 ที่เพิ่งจบไปว่า “รู้สึกดีใจกับพัฒนาการของนักกีฬาที่เข้าร่วมเเข่งขันในรายการนี้ โดยในเดือน ก.พ. ทางสมาคมฯ ได้เปิดโอกาสให้นักกีฬาในโซนภาคใต้ , ภาคกลาง เเละภาคอีสาน ได้ลงทดสอบความสามารถเเละโชว์ศักยภาพทางกีฬาว่ายน้ำอย่างเต็มที่ หลังติดปัญหาการระบาดของโควิด-19 ทำให้การเเข่งขันต้องหยุดชะงัก เพื่อคัดเลือกผู้ที่ทำผลงานดีเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ในช่วงเดือน เม.ย.”
พล.อ.ศิริชัย กล่าวต่อว่า “ในส่วนผลงาน ปรากฏว่า โซนภาคใต้ หรือ ภาค4 จัดขึ้นที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 11-13 ก.พ. 65 มีนักกีฬาเข้าร่วม 245 คน พบว่า สโมสรสมาชิกสามารถพัฒนานักกีฬาจนทำลายสถิติหลายรายการ โดยเฉพาะนักกีฬาดาวรุ่ง อายุ 13-15 ปี เเจ้งเกิดอย่างมากมาย ขณะที่ โซนภาคกลาง 1 เเข่งขันที่ มหาวิทยาลัยการกีฬาเเห่งชาติ จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 18-20 ก.พ. 65 นักกีฬาทั้ง454 คน จาก 57 สโมสรที่เข้าร่วม เเสดงให้เห็นถึงพัฒนาการเเละสภาพร่างกายของนักกีฬาหน้าใหม่ที่เเข็งเเกร่ง ในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน เพิ่มทางเลือกให้กับทีมชาติได้เป็นอย่างดี”
เช่นเดียวกับ โซนภาคอีสาน หรือ ภาค 3 จัดขึ้นเป็นครั้งเเรก ที่ จ.นครพนม โรงเรียนนครพนมวิทยาคม สร้างความตื่นตัวให้กับบรรดานักกีฬาเเละผู้ปกครอง รวมถึง 35 สโมสรสมาชิก เป็นอย่างยิ่ง นับเป็นการเรียกกระเเสการเเข่งขันว่ายน้ำของภาคอีสานให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
พล.อ.ศิริชัย กล่าวอีกว่า “อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ ต้องการเห็นพัฒนาการนักกีฬาอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดเส้นทางสู่ทีมชาติในอนาคต หวังว่า หลังจากนี้หากมีการเปิดใช้สระว่ายน้ำได้ทั่วประเทศ ทุกคนจะกลับมาฝึกซ้อมเเละทำเวลาได้ดียิ่งขึ้น โดยมีรายการสำคัญรออยู่ในช่วงเดือน มี.ค. คือ การเเข่งขันว่ายน้ำชิงชนะเลิศเเห่งประเทศไทย โซนกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 17-20 มี.ค. 65 เเละโซนภาคเหนือ หรือ ภาค 5 ที่ จ.อุตรดิตถ์ ระหว่าง 18-20 มี.ค. 65 เพื่อคัดตัวเเทนภาค ไปเเข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ในช่วง เม.ย. ต่อไป”