จากกรณีที่ นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติคนใหม่ ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติฉบับใหม่ และ ได้ผ่านกระบวนการได้มาซึ่งผู้ที่เสนอชื่อต่อสภาตามขั้นตอน จำนวน 2 คน ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.63 แต่มีข้อแย้งจากสภามหาวิทยาลัยและข้อร้องเรียนในประเด็นต่าง ๆ ถึงการได้มาของรายชื่อที่เสนอ จนกระบวนการตรวจสอบต้องกลับไปยัง คณะกรรมการสรรหา และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ตั้งกรรมการพิจารณาข้อร้องเรียนดังกล่าว
จนวันที่ 23 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ.2562 ได้แจ้งผลการสอบข้อเท็จจริงกรณีที่สภามหาวิทยาลัยฯค้านการได้มาและมีผู้ร้องเรียนซึ่งรายชื่อของผู้ที่ถูกเสนอ สรุปง่าย ๆ (เพราะเนื้อหายาว) ว่าที่ดำเนินการมาถูกต้องแล้ว จึงขอให้ทางสภามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกอธิการบดีตามรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาที่ส่งถึงให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วันตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง ซึ่งการลงรับแจ้งของมหาวิทยาลัยการกีฬาฯ คือวันที่ 28 ก.พ.2565
จึงเป็นที่มาของการนำเรื่องทั้งการสรุปผลการสอบข้อเท็จจริงกรณีการสรรหาอธิการบดีล่าช้า มาสรุปต่อสภาในกรณีที่เป็นวาระเรื่องสืบเนื่อง และ การสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ เป็นวาระลับ เข้าสู่วาระการประชุมสภามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 3/2565 ที่จะมีขึ้น ในวันที่ 28 มี.ค.2565 นี้
ทำให้เกิดการจับตามองว่า ในทั้งสองวาระนี้ ว่า วาระเรื่องสืบเนื่องที่เป็นการสรุปผลการสอบข้อเท็จจริงนั้นทางสภามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติจะมีความเห็นเช่นใด และ ที่สำคัญคือวาระลับ คือวาระการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติคนใหม่ ที่มีการยืนยันการพิจารณาจากคณะกรรมการสรรหามติเดิม โดยได้เสนอ 1.รศ.ดร.วันชัย รัตนวงษ์ และ 2 ผศ.ดร.วีระศักดิ์ วิศาลาภรณ์ นั้น จะมีบทสรุปออกมาเช่นใดจากสภามหาวิทยาลัยชุดนี้
Station THAI ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวว่า การพิจารณาการสรรหาอธิการบดี นั้นถึงจะเป็นไปตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ.2562 แต่ก็ยังใช้ข้อบังคับสถาบันการพลศึกษาว่าด้วยการสรรหาอธิการบดี พ.ศ.2548 ตามพระราชบัญญัติสถาบันการพลศึกษา พ.ศ.2548 จึงมีรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาก แต่สภามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ก็ถือว่ามีอำนาจเต็มในการพิจารณา เลือกทางใดทางหนึ่งตามที่ได้มีการเสนอ 2 ผู้ที่เหมาะสมจะเป็นอธิการบดีคนใหม่ จาก ผ่านกระบวนการของคณะกรรมการสรรหาขึ้นมา โดยทางที่จะเลือกน่าจะมีอยู่ไม่กี่ทาง ที่ข้อบังคับเปิดไว้ให้ ซึ่งทางหนึ่งคือรับคนใดคนหนึ่งจาก 2 คน ที่ถูกเสนอชื่อขึ้นมาแล้วดำเนินการต่อในฐานะที่เลือกได้แล้ว สองคืออาจจะมีข้อทักท้วงต่าง ๆ ที่ทำให้ต้องรอการพิจารณาจากสภาต่อไปหรือสภาฯ อาจจะล้มกระดานจากการสรรหาครั้งนี้ เพื่อเริ่มใหม่ก็ได้
#เรื่องนี้จึงน่าติดตามครับ