Station THAI เห็นข้อเขียนที่อาจจะเรียกเป็นจดหมายเปิดผนึก เพื่อร้องเรียนสิ่งที่ไม่เห็นด้วย เกี่ยวกับการจัดการ ในกีฬามวยสากลในกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 47 ศรีสะเกษเกมส์ ในส่วนที่สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแล
นั่นคือเรื่องการร้องถึง พฤติกรรมของคนจากสมาคมฯ ที่ดูแลการดำเนินการ ดูแลการตัดสิน ที่ไม่เข้าตา ไม่เข้าใจ พร้อมมีคำถามอีกมากมายที่เกิดขึ้น
ซึ่งข้อเขียนนี้ที่ไม่ได้ลงชื่อจริง ได้ถูกสแกนแล้วส่งต่อไปในกลุ่มของคนทำมวยสากลหลายกลุ่ม รวมทั้งสื่ออย่างเรา เพื่อให้ได้มองเห็นเรื่องนี้และถ่ายทอด ซึ่งเราติดตามการแชร์เรื่องราว การแสดงความคิดเห็นทั้งหมดที่เกิดจากการแชร์ไปนั้น พบว่าเสียงส่วนใหญ่ “ด่าและกระทืบซ้ำ” ฝั่งที่ถูกกล่าวหาในข้อเขียน…นั่นหมายถึงการเห็นด้วย ว่าสมาคมผิดพลาด ต่อการดำเนินการในงานที่ถูกตำหนิ นี้
ซึ่งเราก็ยอมรับว่า หากไม่เห็นระดับ ดร.ไรแมน บุญถม ฮีโร่เหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 11และยังทำทีมมวยอยู่ในปัจจุบัน ออกมาแชร์และแสดงความคิดเห็นด้วย ในแนวทางที่หนุนเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องจริงนั้น ก็คงจะปล่อยเรื่องนี้ไป ด้วยคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ของสังคมนักเลงคีย์บอร์ด
แต่ความเชื่อถือ “ไรแมน” ที่คนๆ นี้ไม่อยู่ฝั่งใคร ไม่สนการซูฮกฝ่ายใด มาตลอด จึงทำให้เราจับเรื่องนี้มาเขียนต่อทันที
เรื่องนี้ Station THAI นำเรื่องร้องเรียนถึงสมาคมกีฬาสมาคมมวยสากล มาถ่ายทอดต่อ เพราะมองว่าเมื่อมันเป็นกระแสขนาดนี้ “คนที่อาสา” เข้ามาดูแลวงการมวยสากลของชาติ ที่ถือเป็นกีฬาความหวัง ควรจะต้องฟัง ต้องคิด และไตร่ตรอง บ้างก็จะเป็นสิ่งดี
เพราะหากจะว่าไปความถูกต้องในหลักการ คือ สมาคมก็อยู่ได้เพราะมวลสมาชิกนี่แหละ
เราตัดสินใจไม่นำหนังสือ 2 หน้า ที่เป็นจดหมายเปิดผนึกร้องเรียนถึงสมาคมกีฬามวยสากลฯ มาลงในนี้เนื่องจากมีคำบางคำไม่เหมาะสม (แต่เรายืนยันมีจริงและเชื่อว่าเสาะหากันได้) แต่ถ้าถามเรื่องสาระ จากที่ดูการแชร์ ความคิดเห็นและกระแสแล้วต้องบอกว่าดี…ที่ควรนำเสนอ
เขาร้องเรียนฝากถึงสมาคมมี 4 ข้อสรุปว่า
1.ผู้แทนสมาคมที่ถูกมอบหมายไปจัดการงานนั้น ทำตัวใหญ่เหลือเกินไม่ฟังใคร จัดแจงเองหมดทั้งที่บางอย่างไม่เคยมีวิธีปฏิบัตินี้มาก่อน ปิดท้ายเรื่องนี้ด้วยคำถามที่ว่าสมาคมหาคนที่มีความรู้ความสามารถมากกว่านี้ไม่ได้หรือ!
2.-3.-4.ผู้ตัดสินที่ถูกคัดให้ขึ้นตัดสินบนเวทีไม่มีคุณภาพ และ เหมือนอยู่ในอาณัติของผู้แทนสมาคม ตามข้อที่ 1 ไม่ว่าจะทำอะไรหรือตัดสินอย่างไรบนเวทีก็ตาม…นี่คือเสียงตำหนิ
และสุดท้ายในข้อร้องเรียน ก็ฝากถึงสมาคมอีกว่า ผู้ที่สมาคมมอบหมายให้ไปทำหน้าที่อบรมโค้ชนั้นเก่งมาจากไหน มีพื้นฐานการสอนเรื่องเฉพาะทางนี้อย่างไรจึงได้รับเกียรติขนาดนั้น
ข้อร้องเรียนถึงสมาคมที่ปรากฏนี้ สมาคมคงมองได้ 2 ด้าน คือ ด้านแรกมองว่าการร้องถึงสมาคมนี้มีประโยชน์ หากตรวจสอบเชิงลึกแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง (ซึ่งเชื่อว่าถ้าคนในวงการจะหาอ่านฉบับเต็มๆ ที่สมบูรณ์นี้ได้แน่นอน) ก็ต้องพิจารณาการแก้ไขตามสิ่งที่เขาร้องมา เพราะถือว่าเจตนาคนร้องคือดีเพื่อวงการจะได้ดี และ อีกด้านก็คือถ้าหาข้อมูลแล้วไม่พบว่าเป็นเรื่องจริง ก็ถือเป็นเรื่องไร้สาระ รกสายตา ก็วางเฉย ทำสิ่งที่มั่นใจต่อไป
แต่ Station THAI ฝากย้ำว่าสมาคมควรหาข้อเท็จจริง และไม่ควรวางเฉยโดยทันทีก่อนสรุป มันจะถูกมองเป็นการไม่ให้เกียรติเสียงของสมาชิกแม้แต่เสียงหนึ่งเดียวขอรับ.
