7 สมาคมกีฬา ประเดิม มีทเดอะเพรส ซีเกมส์ครั้งที่ 31 ตั้งเป้ารวม 18 ทอง

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

7 สมาคมกีฬา ประเดิมแถลงความพร้อมซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ซึ่งจัดโดย สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ “มีทเดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31” ประกาศตั้งเป้ารวม 18 ทอง โดย คูราช ตั้งเป้า 3 ทอง, มวยปล้ำ 2 ทอง, ยิมนาสติก 1 ทอง, ยูโด 3 ทอง, มวยสากล 5 ทอง, ยูยิตสู 2 ทอง และแบดมินตัน 2 ทอง ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผย กกท.ทำงานร่วมกับสมาคมกีฬา และคณะกรรมการโอลิมปิคฯ มาอย่างต่อเนื่อง ระบุใช้งบราวๆ 700 ล้านบาท ในการเตรียมทัพสู้ศึกซีเกมส์ มั่นใจศักยภาพทัพไทยไปถึงเป้าหมาย คือ การเป็นอันดับ 1 ในชนิดกีฬาสากล

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 65 ที่ห้องประชุม 222 โซนอี สนามราชมังคลากีฬาสถาน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานเเถลงข่าว “มีท เดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อประเมินความหวังของนักกีฬาไทยใน “ฮานอยเกมส์” ระหว่าง 12-23 พ.ค. 65 ที่ประเทศเวียดนาม โดยจัดขึ้นเป็นแรก จากทั้งหมด 5 ครั้ง โดยมี นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยอีก 7 ผู้แทนจากสมาคมกีฬา ร่วมแถลงความพร้อม

นายจักรพันธ์ นาคลดา เลขาธิการสมาคมกีฬาคูราชแห่งประเทศไทย แถลงความพร้อมเป็นสมาคมกีฬาแรกว่า กีฬาคูราช จัดในซีเกมส์ครั้งแรก เมื่อปี 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ครั้งนั้นไทยคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง มาในครั้งนี้ชิงทั้งหมด 9 เหรียญทอง และเราส่งแข่งครบ 9 รุ่น ครั้งนี้ทีมคูราชไทยเตรียมตัวมาอย่างดีและเต็มที่ จากการแข่งขันรายการล่าสุดที่ทาจิกิสถาน นักกีฬาไทยสามารถคว้ามาได้ถึง 3 เหรียญทอง โดยคู่แข่งสำคัญยังคงเป็นเจ้าภาพเวียดนาม ที่การสร้างพื้นฐานและการพัฒนาค่อนข้างใกล้เคียงไทยเรามาก อย่างไรก็ดี ยังเชื่อว่าทัพคูราชไทยจะทำผลงานได้ดีกว่าซีเกมส์ครั้งที่แล้ว คาดหวัง 3 เหรียญทอง จากทั้งผู้ชายและผู้หญิง

ด้าย นายวิสุทธิ์ ตั้งวาริธร นายกสมาคมกีฬามวยปล้ำแห่งประเทศไทย เผยว่า ตอนนี้ทัพนักกีฬาเก็บตัวกันอยู่ที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุพรรณบุรี ทั้งทีมหญิงและทีมชาย ทีมละ 12 คน ซึ่งกำลังเก็บตัวซ้อมกันอย่างเข้มข้น แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีอุปสรรคเรื่องของงบประมาณจากทางภาครัฐที่ค่อนข้างล่าช้า คงต้องรอทางการกีฬาแห่งประเทศไทยพิจารณาในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ทัพนักมวยปล้ำไทยยังพร้อมสู้เต็มที่ และคาดหวังไว้ที่ 2 เหรียญทอง จากนักกีฬาชายประเภทฟรีสไตล์ รุ่น 74 กก. และ ประเภทเกร็กโกโรมัน รุ่น 97 กก. ส่วนนักกีฬาหญิงความเป็นไปได้ยัง 50-50

ส่วน น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เผยว่า ซีเกมส์หนนี้ยิมนาสติก จัด ชิงชัย 21 เหรียญทอง จึงถือเป็นกีฬาที่สามารถตัดสินเจ้าเหรียญทองได้เลย โดยผลงานในซีเกมส์ครั้งที่แล้ว เราคว้ามาได้ 1 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง ซึ่งอันที่จริงทางสมาคมฯ มองว่า 5 เหรียญเงินนั้น ควรเป็น 5 เหรียญทองด้วยซ้ำ มั่นใจถึงความไม่โปร่งใสที่เกิดขึ้น เพราะเนื่องด้วยกีฬายิมนาสติกเป็นกีฬาที่ตัดสินด้วยสายตา แต่ครั้งนี้เราเก็บข้อผิดพลาดจากครั้งที่แล้วนำมาแก้ไข และเชื่อว่าจะทำได้ดีกว่าเดิม โดยขอตั้งเป้าเอาไว้ที่ 1 เหรียญทอง

ขณะที่ ร.ต.หญิง พัชรี พิไชยแพทย์ ผู้ฝึกสอนทีมยูโด เปิดเผยว่า ในซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ ทีมยูโดไทยทำได้ถึง 7 ทอง มาคราวนี้ เวียดนามตัดรุ่นที่เราได้เหรียญทองออกเกือบหมด แล้วทำการบรรจุรุ่นที่ไม่มีในโอลิมปิกเกมส์ เข้ามา ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากขึ้นกับการรักษาความหวังเหรียญทองของเราเอาไว้ โดยครั้งนี้ทีมส่งนักกีฬาลงแข่งขัน 17 คน แบ่งเป็นประเภทเดี่ยว 10 คน เป็นนักกีฬาหน้าใหม่เกือบครึ่งทีม ซึ่งก็จะมีทีมผสมชิงชัยเป็นครั้งแรกด้วย โดยเป้าหมายของเรา ตั้งเอาหวังไว้ที่ 3 เหรียญทอง จากทั้งหมด 13 เหรียญทอง

ด้าน พล.อ.อ.ระพีพัทธ์ หลาบเลิศบุญ ประธานเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เผยว่า ต้องยอมรับว่าเจ้าภาพเวียดนาม ที่มาเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่กับเรา ทำให้เราได้เห็นเทคนิคและฝีมือ พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วมากๆ โดยหนนี้มวยสากลมีชิงชัยรวม 13 รุ่น แต่ไทยส่งแข่งได้แค่ 11 รุ่น แบ่งเป็นชาย 7 รุ่น และหญิง 6 รุ่น ถึงเวลานี้นักกีฬาของเรามีความพร้อมที่จะลงทำการแข่งขัน และตั้งเป้าเอาไว้ที่ 5 เหรียญทอง โดยชาติที่เป็นคู่ต่อกร คือ ฟิลิปปินส์ ซึ่งมวยชายแข็งแรง และเวียดนาม ที่มีมวยหญิงแข็งแกร่ง ลึกๆยังเชื่อ 11 รุ่น ที่ไทยส่งแข่งขันจะได้เหรียญติดมือครบทุกคน

ขณะที่ ผ.ศ.ชาญชัย สุขสุวรรณ์ นายกสมาคมกีฬายูยิตสูแห่งประเทศไทย เผยว่า ซีเกมส์ครั้งที่แล้ว ทัพยูยิตสูไทยคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง ครั้งนี้เจ้าภาพเวียดนามจัดชิงชัย 6 เหรียญทอง จาก 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทเนวาซ่า 4 ทอง และ ประเภทโนกิ 2 ทอง ซึ่งต้องบอกว่า เจ้าภาพเปิดชิงชัยในประเภทที่ค่อนข้างเข้าทางประเทศตนเอง และส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นประเภทสากลที่ทางสหพันธ์กีฬายูยิตสูนานาชาติเปิดจัดแข่งทั่วไป อย่างประเภทโนกินั้นไม่ได้อยู่ในสหพันธ์ฯ อยู่แล้ว ส่วนประเภทเนวาซ่าที่เปิดแข่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้แข่งในสหพันธ์ฯ

อีกประเด็น คือ เรื่องของการที่ประเทศฟิลิปปินส์ส่งนักกีฬาไปเก็บตัวถึงสหรัฐอเมริกา และประเทศสิงคโปร์ส่งนักกีฬาไปเก็บตัวที่บราซิล จุดนี้อาจมีผล แต่ยังเชื่อว่าการที่ทัพยูยิตสูไทยเก็บตัวภายในประเทศ เน้นพัฒนาเด็กในประเทศ ไม่ใช้ลูกครึ่ง ก็ยังน่าจะสร้างผลงานที่ดีออกมาได้ ตั้งเป้ารักษามาตรฐานซีเกมส์ครั้งที่แล้วไว้ก่อนที่ 2 เหรียญทอง จากนักกีฬาหญิงทั้ง 2 รุ่น ของประเภทเนวาซ่า ได้แก่ กัญจุฑา ภัทรบุญซ่อน ในรุ่น 48 กก. และ อรภา เสนาธรรม ในรุ่น 63 กก. แต่จริงๆ เราก็หวังทุกรุ่นที่ส่งไป ก็อยากฝากแฟนๆ กีฬาไทยส่งกำลังใจมาเชียร์ลูกหลานคนไทยด้วยกันเยอะๆ

ด้าน นายธนัช อัศวนภากาศ รองเลขาธิการสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย เผยว่า แบดมินตันซีเกมส์ มีชิง 7 ทอง จากทีมชายและทีมหญิง รวมถึงประเภทบุคคลอีก 5 ประเภท ภาพรวมนักกีฬาชุดนี้ จะใช้ชุดเอกับบีผสมกัน ทีมหญิง ที่เราเป็นแชมป์ 4 สมัยติดต่อกัน น่าจะป้องกันแชมป์ได้ ส่วนหญิงเดี่ยว ที่มี “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ นำทัพ เป็นความหวังของเราอีกเหรียญ เช่นเดียวกับ ชายเดี่ยว ที่มี “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เชื่อว่าหากอยู่ในห้วงเวลาที่เข้าฟอร์ม ก็มีโอกาสได้แชมป์ เช่นกันกับ หญิงคู่ โดยรวมเชื่อว่าแบดมินตันไทยในซีเกมส์ น่าจะมี 2 เหรียญทอง จากทีมหญิงและหญิงเดี่ยว

นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าวฯ จัด มีทเดอะเพรสฯ ขึ้นมา เป็นประจำทุกครั้ง ก่อนนักกีฬาไทยจะเดินทางไปลุยศึกโอลิมปิกเกมส์, เอเชียนเกมส์ และซีเกมส์ เพื่อประเมินความคาดหวังของทัพนักกีฬาไทยที่จะเดินทางไปแข่งขัน โดย มีทเดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ 3 ครั้งล่าสุด ที่สมาคมจัดขึ้น ปี 2558 ที่สิงคโปร์ จัดรวม 36 ชนิดกีฬา มีทเดอะเพรสฯ ประเมินว่าจะได้ 95 เหรียญทอง ผลงานจริงได้ 95 เหรียญทอง ได้เป็นเจ้าเหรียญทองครั้งนั้น ส่วนปี 2560 มี 38 ชนิดกีฬา แข่งขันที่มาเลเซีย ประเมินไว้ที่ 109 เหรียญทอง ทว่าทำได้ 72 เหรียญทอง ต่ำกว่าเป้า และปี 2562 ที่ฟิลิปปินส์ มี 59 ชนิดกีฬา ประเมินไว้ที่ 121 เหรียญทอง ทำได้ 92 เหรียญทอง ต่ำกว่าเป้า

“สรุปครั้งแรกของการแถลงความพร้อม มีทเดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ทั้ง 7 สมาคม ตั้งเป้ารวม 18 เหรียญทอง แบ่งเป็น คูราช 3 เหรียญทอง, มวยปล้ำ 2 เหรียญทอง, ยิมนาสติก 1 เหรียญทอง, ยูโด 3 เหรียญทอง, มวยสากล 5 เหรียญทอง, ยูยิตสู 2 ทองเหรียญทอง และแบดมินตัน 2 เหรียญทอง”

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เวลานี้อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเก็บตัวเพื่อไปแข่งขันที่เวียดนาม สำหรับอุปสรรคในการชิงชัยช่วงการระบาดของโควิด-19 ตนมองว่ามีมากกว่าในภาวะมากปกติ ทั้งความกระชั้นชิด และความไม่แน่นอนของเจ้าภาพ ในเรื่องกฎ มาตรการ และอีเวนท์ที่จัดการแข่งขัน ทำให้เราเตรียมการฝึกซ้อมได้ไม่เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตาม กกท.ก็พยายามสนับสนุนการฝึกซ้อมของทุกสมาคมให้ได้มากที่สุดและดีที่สุด

“ครั้งนี้ กกท.ทำงานร่วมกับสมาคมกีฬา และคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย โดยใช้งบประมาณเตรียมทีมเก็บตัวฝึกซ้อมและส่งแข่งขันราว 700 ล้านบาท จาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ สำหรับกีฬาซีเกมส์เป้าหมายที่แท้จริงของเรา คือ อยากให้เป็นเวทีสร้างดาวรุ่งและเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาทุกๆชนิดกีฬา เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการสู้ศึกเอเชียนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ และเวทีนานาชาติ โดยเป้าหมายหลักๆของไทย ก็คือเป็นอันดับ 1 ในชนิดกีฬาที่เป็นสากล ซึ่งมีแข่งขันในโอลิมปิก” ดร.ก้องศักด กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับการเเถลงข่าว มีท เดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ครั้งที่ 2 จะมีขึ้นในวันพุธ ที่ 20 เม.ย. 65 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุม 222 โซนอี สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยจะมี 7 สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมแถลงความพร้อม ประกอบด้วย ฟุตบอลและฟุตซอล, ว่ายน้ำ, ยิงธนู, บาสเกตบอล, ฟันดาบ, ปันจักสีลัต และเปตอง

RANDOM

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!