ศธ. มั่นใจ เปิดเรียน On Site ปลอดภัย การศึกษาไทยเดินหน้าต่อ พร้อมแก้ไขภาวะถดถอยทางการเรียนรู้อย่างจริงจัง

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

วันนี้ (10 พ.ค. 65) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2565 พร้อมเสวนา เรื่อง ความพร้อมในการเปิดเรียนอย่างปลอดภัย โดยมี ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ) นางสาวทรงศรี วิระรังษิยากรณ์รองเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) นายพีรศักร์ รัตนะ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย ร่วมเสวนา และเดินชมนิทรรศการและบูธจัดแสดงสินค้า ” ช้อปเพลิน ๆ รับเปิดเทอมกับ ศธ.” ณ โรงเรียนพญาไท สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร

นางสาวตรีนุช กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2565 นี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย และสั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เตรียมความพร้อมในการเปิดเรียนให้ดีที่สุด ซึ่ง ศธ. มีเป้าหมายเปิดการเรียนแบบ On site ด้วยการสร้างความมั่นใจให้แก่นักเรียน ครู ผู้ปกครอง รวมถึงชุมชน ถึงความปลอดภัย และคุณภาพการศึกษา ที่ลูกหลานจะได้รับผ่านระบบการศึกษาของไทยทุกรูปแบบ และสร้างความไว้วางใจกลับคืนสู่สังคมอีกครั้ง ดังนั้น พวกเราทุกคนต้องรวมพลังกัน เพื่อยกระดับความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ หรือ สร้าง TRUST ให้เกิดขึ้นในระบบการศึกษาอย่างเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ในด้านความปลอดภัย ศธ.ได้ เน้นย้ำให้สถานศึกษาทุกสังกัดเตรียมความพร้อมตามแนวทางการเฝ้าระวังสำหรับการเปิดเรียน On site ด้วยหลักการ “ตัดความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกัน” ซึ่งทุกสถานศึกษาต้องทำการประเมินตนเองในการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ประเมินความเสี่ยงตนเองเป็นประจำ มีการตรวจคัดกรอง เฝ้าระวังอย่างเหมาะสม การฉีดวัคซีนให้กับ ครู บุคลากร ผู้ปกครอง และเด็ก อายุ 5-18 ปี ได้รับวัคซีนโควิด – 19 ตามเกณฑ์ ให้มีการเร่งรัดจัดฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียนทุกคนที่มีความประสงค์จะเข้ารับการฉีดอย่างครอบคลุมและทั่วถึง โดยศึกษาธิการจังหวัด ประสานกับ สาธารณสุขจังหวัด ในการเร่งฉีดวัคซีน โดยเฉพาะน้อง ๆ ที่มีอายุระหว่าง 5 -11 ปี ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจ และความจำเป็นในการฉีดวัคซีนให้กับผู้ปกครองได้รับทราบ ” ทุกโรงเรียนต้องปฏิบัติตามมาตรการสร้างความปลอดภัย 6-6-7 ป้องกันโควิด-19 ในสถานศึกษาอย่างเคร่งครัด

ทั้งการบริหารจัดการภายในห้องเรียน ภายในโรงเรียน และบริเวณโดยรอบโรงเรียน มีการเตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุ มีการซักซ้อม รวมถึงการเตรียมพร้อม School Isolation สิ่งสำคัญ ต้องทำความเข้าใจในชุมชน และสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการของชุมชนร่วมกันอย่างเข้มแข็ง หากมีความเสี่ยง หรือความไม่ปลอดภัยใด ๆ เกิดขึ้น กลไกการสื่อสารเพื่อแจ้งเหตุ ผ่าน MOE Safety Center ต้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการลงมือแก้ไขเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หรือเรื่องความไม่ปลอดภัยนั้น ต้องได้รับการจัดการแก้ไขให้หมดไป ทั้งนี้ โรงเรียนไม่จำเป็นต้องปิดการเรียนการสอน แม้จะพบการติดเชื้อในโรงเรียน แต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนตามแผนเผชิญเหตุอย่างแม่นยำ และรวดเร็ว เพราะเป้าหมายสำคัญ นักเรียนควรได้รับการเรียนรู้อย่างเต็มที่ที่โรงเรียน และลดปัญหาการเกิดภาวะการเรียนรู้ที่ถดถอย (Learning Loss) ”

นางสาวตรีนุช กล่าวอีกว่า ในด้านการสร้างความมั่นใจต่อคุณภาพทางการศึกษานั้น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในช่วง 1- 2 ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดภาวะการเรียนรู้ถดถอยเกิดขึ้นกับนักเรียนในทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งในปีการศึกษา 2565 นี้ ศธ. มุ่งเน้นให้เป็นปีแห่งการเสริมสร้างการศึกษา เพื่อเดินหน้าแก้ไขภาวะถดถอยทางการเรียนรู้อย่างจริงจัง โดยเร่งฟื้นฟูการเรียนรู้ช่วงที่สูญเสียไปให้คืนกลับมาเร็วที่สุดอย่างเป็นระบบ ให้ความสำคัญกับผู้เรียนเป็นหัวใจสำคัญ หรือ Child Center ด้วยการนำแนวทางการเรียนรู้แบบ Active Learning มาใช้ ให้ความสำคัญต่อภูมิปัญญาท้องถิ่น การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อการขับเคลื่อนการเรียนการสอนใน 3 มิติ คือ การเสริมสร้างความรู้ การสร้างทักษะที่เข้มข้น ส่งเสริมทักษะชีวิต หรือทักษะทางสังคม โดยจะมีการเตรียมความพร้อม หรือการปรับพื้นฐานก่อนเรียน เพื่อนค้นหาช่องว่างของน้อง ๆ ในการออกแบบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพอย่างเหมาะสม ด้วยการประเมินความพร้อมก่อนการเรียนในทุกระดับชั้น เพื่อรับทราบถึงสถานะ หรือช่องว่างทางการเรียนรู้ เพื่อที่คุณครูจะได้เตรียมเนื้อหาการเรียนการสอนที่เหมาะสม สามารถเติมเต็มศักยภาพของผู้เรียนได้อย่างเต็มที่ ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาดำเนินการปรับพื้นฐานให้แก่ผู้เรียนก่อนเปิดภาคเรียน หรือ ภายหลังการเปิดภาคเรียนแล้ว

นอกจากนี้ รมว.ศธ. กล่าวด้วยว่า สำหรับครูในทุกสังกัด จะได้รับการส่งเสริมให้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เท่าทันสถานการณ์ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของผู้เรียน รวมทั้งการจัดสวัสดิการความปลอดภัยสร้างขวัญและกำลังใจแก่ครูและบุคลากรของสถานศึกษา ซึ่ง ศธ. พร้อมสนับสนุน และส่งเสริมการพัฒนาคุณครูให้มีทักษะการสอนอย่างเต็มที่ ทั้งในด้าน Digital Literacy มีความสามารถในการปรับช่องว่างทางการเรียนรู้ และทักษะของนักเรียน และสามารถวิเคราะห์เพื่อวางแผนการสอนที่เหมาะสม เน้นการสร้างคุณภาพทางการศึกษา เพื่อเป็นการสร้างรากฐานทางการศึกษา ที่ต้องนำพาน้อง ๆ ไปสู่การเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ มีความรู้ และทักษะที่จำเป็นต่ออนาคต รองรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในศตวรรษที่ 21 และสนับสนุน เสริมสร้างการเรียนเพื่อรู้ และสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต

นับเป็นจังหวะ และโอกาสที่ดี ที่ทุกคนจะได้เพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ รวมถึงการเปิดกว้างทางความคิด ในการปรับเปลี่ยนแนวทางการเรียนการสอน ควบคู่เรียนรู้การปรับตัว การพลิกแพลงต่าง ๆ ภายใต้บริบทแวดล้อมทางสังคม และเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีผลกระทบต่อการศึกษา ซึ่งจะช่วยให้ครูและนักเรียนสามารถประยุกต์ใช้ และมีความสามารถที่พัฒนาขึ้นตามลำดับ ทั้งในการเรียนการสอนแบบ Online, On demand, On air หรือ On hand ขณะเดียว การไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในโครงการพาน้องกลับมาเรียน หรือ การพาเด็ก ๆ ที่หลุดจากระบบการศึกษากลับคืนสู่ห้องเรียน ยังดำเนินควบคู่ต่อเนื่อง ด้วยการค้นหา ติดตาม และวางแผนป้องกันไม่ให้น้อง ๆ หลุดจากระบบอีกครั้ง

ตามที่กระทรวงฯ ได้มีโครงการ “อาชีวะ อยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ” ควบคู่ไปกับ การแนะแนวการศึกษาต่อนอกระบบ สำหรับน้อง ๆ ที่ไม่ประสงค์จะกลับเข้าระบบ” รมว.ศธ. กล่าวแนะว่า ในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนนี้เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ทางองค์การค้าคุรุสภาได้นำสินค้าเกี่ยวกับนักเรียนมาลดราคาเป็นกรณีพิเศษ ใน Campaign “ซ้อปเพลิน ๆ รับเปิดเทอมกับ ศธ.” โดยหาซื้อได้ที่ ศึกษาภัณฑ์พานิชย์ทุกสาขา หรือผ่านระบบออนไลน์ และร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายขององค์การค้าคุรุสภาในทุกภาค ทั่วประเทศ และร้านค้าต่าง ๆ ที่ เข้าร่วมโครงการ โดยจะมีตราสัญลักษณ์ติดแสดงที่หน้าร้าน ซึ่งมีหลายรายการสินค้า จะมีลดราคาสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เครื่องแบบนักเรียน ลดราคา 50 เปอร์เซ็นต์ อุปกรณ์ เครื่องเขียน มีส่วนลดที่มอบให้ ตั้งแต่ 10-20 เปอร์เซนต์ และคู่มือคุณครู ลด 30%

RANDOM

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!