ม.ศรีปทุม สร้าง “อสม.การศึกษารุ่นเยาว์” แก้ปัญหาการเรียนรู้ในเด็กประถมยุคโควิด 19

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี และ มูลนิธิเพื่อทักษะแห่งอนาคต ได้รับสนับสนุนให้ดำเนินโครงการ “โรงเรียนพัฒนาตนเอง หรือ TSQP” จาก กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) โดยดำเนินโครงการมา กว่า 3 ปี ซึ่งในปี 2564 โครงการได้มีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อบริหารความเสี่ยงในสภาวการณ์ที่ไม่สามารถจัดการเรียนรู้ที่โรงเรียนได้ อันเกิดจากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน จนเกิดเป็นนวัตกรรม “การพัฒนายุวนวัตกรสร้างชาติ” โดยขอเรียกว่าอาสาสมัครด้านการศึกษา (อสม. ด้านการศึกษา หรือ ครูชาวบ้าน) โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ 3 ประการ ได้แก้ 1) พัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียน ผ่านการเป็น อสม. 2) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ชุมชนด้านการจัดการศึกษาของโรงเรียน และ 3) เพื่อแก้ปัญหาทุพลภาพด้านโภชนาการอและการเรียนรู้ให้แก่เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา ด้วยความช่วยเหลือจากรุ่นพี่และผู้ปกครองในชุมชน

รศ.ดร.ธันยวิช วิเชียรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรม มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี และในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง กล่าวว่า นวัตกรรม “การพัฒนายุวนวัตกรสร้างชาติ” เกิดจากกรอบแนวคิดการพัฒนานวัตกรรมเพื่อจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ และแก้ปัญหาทุพลภาพด้านโภชนาการและการเรียนรู้ในสถานการณ์ยากลำบากแก่เด็กประถม และพัฒนาทักษะในศตวรรษ ที่ 21 ผ่านการเป็น อสม. และสร้างความเชื่อมั่นแก่ชุมชนด้านการศึกษา โดยมีทีมโค้ชพื้นที่ ผู้บริหารโรงเรียน ครู และชุมชน จัดการเรียนรู้ร่วมกัน ผ่านกระบวนการดำเนินงานและเครื่องมือ โดยครูและผู้อำนวยการโรงเรียนช่วยกันออกแบบชุดการเรียนรู้แบบพึ่งตนเอง และแผนการจัดการเรียนรู้ร่วมกันให้สอดคล้องกับบริบท มีการคัดเลือกนักเรียนอาวุโสในโรงเรียน ที่มีภาวะผู้นำ มีความเป็นนักเรียนรู้เชิงรุก นักเรียนมืออาชีพ มีวินัย และคัดเลือกเยาวชน หรือผู้มีความรู้ มีคุณวุฒิ เช่น นักศึกษาบัณฑิตจบใหม่ หรือนักศึกษาอาชีวะ ในแต่ละหย่อมบ้าน ร่วมทีม อสม.ทางการศึกษา

รศ.ดร.ธันยวิช กล่าวต่อว่า เมื่อผ่านกระบวนการคัดเลือกแล้ว จะทำการอบรมกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Project based Learning (PBL) ให้แก่นักเรียนประถม พร้อมฝึกการใช้เครื่องมือ และสร้างเป็นทีม “อสม. ทางการศึกษา“ หรือ “ครูชาวบ้าน” ที่ผันตัวเองเป็น facilitator ใช้ความรู้และประสบการณ์เป็นกระบวนการ PBL ให้แก่รุ่นน้องประถมฯ หลังจากนั้น อสม.จัดกิจกรรมโครงงานและแก้ไขทุกพลภาพทางโภชนาการในหย่อมบ้าน และครูให้คำปรึกษาด้วยวิธีออนไลน์ พร้อมทั้งเชิญผู้ปกครอง หรือชาวบ้าน มาร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน เพื่อจะสร้างชิ้นงานที่เป็นสินค้า ทำรายได้เจือจุนครอบครัว เนื่องจากโครงงานมักนำไปสู่การอาชีพจนเกิดรายได้ และเสริมด้วยการฝึกฝนเรื่องธุรกิจ Online เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ สุดท้าย จะมีการวัดและประเมินผลแบบ Authentic และ Formative โดยทีม อสม. และครู เพื่อประเมินจากกระบวนการ และชิ้นงาน

“เห็นภาพการทำหน้าที่ของ “อสม. ด้านการศึกษารุ่นจิ๋ว” ที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษา ทำหน้าที่เข้าพื้นที่ตามหย่อมบ้าน เพื่อไปจัดการเรียนรู้ แบบโครงงานฯ ให้กับรุ่นน้องในระดับประถม และผู้ปกครองที่ว่างงาน ภายในชุมชนตนเอง ฟังดูอาจเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่ภาพที่เห็นคือความมหัศจรรย์ เด็กนักเรียนรุ่นพี่รุ่นน้องที่มีวัยต่างกัน ไม่ถึง 4 ปี จะสอนกันเองได้ดีมาก เพราะเขาพูดภาษาเดียวกัน ขนาดของโลกทัศน์ที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด คือ ตัวนักเรียนที่เป็นอาสาสมัครทางการศึกษาเอง เขาได้พัฒนาและได้เรียนรู้ สูงสุด คือ การนำความรู้ตกผลึกและถ่ายทอด ส่วนผู้รับประโยชน์ลำดับรองลงมา คือ ครู (ผู้ใหญ่) ที่สร้างอาสาสมัครการศึกษารุ่นเยาว์กลุ่มนี้ขึ้นมา เพราะได้ฝึกประสบการณ์ ฝึกทักษะมากมายการได้เป็นโค้ชของโค้ช ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย และจะหาโอกาสใดมาฝึกประสบการณ์ ถ้าไม่ใช่กระบวนการนี้” ดร.ธันยวิช กล่าว

ดร.ธันยวิช กล่าวอีกว่า ด้วยสถานการณ์ covid 19 ทำให้เราพบว่า การศึกษาที่ถูกจำกัดอยู่เพียงในรั้วโรงเรียน แม้จะปลอดภัยแต่กลับเป็นอุปสรรคของการพัฒนาเด็ก แต่กิจกรรมนี้จะให้คุณประโยชน์หลายอย่าง และกระทบกับคนมากมาย เริ่มจากกลุ่มครู Coach ที่ต้องพัฒนาอาสาสมัครรุ่นเยาว์ หรือตัวอาสาสมัครรุ่นเยาว์ แม้กระทั่งกลุ่มนักเรียนประถมรุ่นน้อง และผู้ปกครอง ล้วนได้ประโยชน์ทั้งสิ้นจากกระบวนการนี้ เมื่อจัดแล้ว ปรากฏว่า ฝ่ายชุมชน เช่น องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นระดับตำบล ได้เข้ามาให้การสนับสนุนหลาย ๆ เรื่อง รวมถึงนำเด็กของตัวเองมาเข้าร่วมกิจกรรม และสนับสนุนค่าใช้จ่ายในลักษณะของการลงขันร่วมกับทาง กสศ. ในการสนับสนุนโรงเรียนให้ดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าวอีกด้วย

RANDOM

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!