ศธ. มอบของขวัญปีใหม่ 2566 โชว์ผลงาน 7 ชิ้น เพื่อประชาชนไทย

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

ศธ. มอบผลการทำงานให้เป็นของขวัญปีใหม่ 2566 แก่ประชาชนไทย โดยเฉพาะความรู้ สู่พี่น้องประชาชน เพื่อส่งมอบความสุขสู่ผู้เรียน ผู้ปกครอง ประชาชน รวมทั้งครู และบุคลากรทางการศึกษา รวม 7 ชิ้นคุณภาพคับแก้ว ดังนี้

ชิ้นที่ 1 ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายอุดหนุนรายหัว ตั้งแต่ระดับอนุบาล – ม.ปลาย และ ปวช. ในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน ทั้งใน – นอกระบบ โดยปรับต่อเนื่อง 4 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2569 ซึ่งจะครอบคลุมค่าจัดการเรียนการสอน เช่น สื่อ วัสดุการสอน ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ โดยปีสุดท้ายจะเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 20% อีกทั้งค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เช่น กิจกรรมวิชาการ ทัศนศึกษา ฯลฯ ปีสุดท้ายเพิ่มขึ้นจากปี 2565 อีก 30% รวมทั้งค่าอุปกรณ์การเรียน เพิ่มขึ้น 15% ตั้งแต่ปี 2566 และคงที่ในปีต่อ ๆ ไป สำหรับค่าเครื่องแบบนักเรียน เพิ่มให้ครบ 1 ชุด และเพิ่มเติมอีก 1 ชุด หากผู้ปกครองถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นับเป็นการปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนครั้งใหญ่ในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระรายจ่ายของผู้ปกครองนักเรียนกว่า 11.5 ล้านคน ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ครอบครัว และเพิ่มศักยภาพของสถานศึกษาในการจัดและพัฒนาคุณภาพการศึกษา

ชิ้นที่ 2 โครงการโรงเรียนคุณภาพ ด้วยหลัก SQS คือ “S : Safety ปลอดภัย Q : Quality คุณภาพ S : Sharing แบ่งปันทรัพยากรการศึกษาร่วมกัน” ตามนโยบาย “สถานศึกษาปลอดภัย นักเรียนนักศึกษาไทยอบอุ่น” ซึ่งโรงเรียนคุณภาพ จะเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ใช้ทรัพยากรร่วมกัน มีครูครบชั้น ครบวิชา มีห้องเรียนปฏิบัติการที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย มีสื่อนวัตกรรม และเทคโนโลยีการศึกษาที่ทันสมัย เพื่อสร้างนักเรียนคุณภาพให้กับประเทศ สร้างครูคุณภาพให้กับห้องเรียน สร้างผู้บริหารคุณภาพให้กับโรงเรียน และสร้างโรงเรียนคุณภาพดีๆ ให้กับชุมชนทั่วประเทศ ขณะที่นักเรียนในโรงเรียนคุณภาพจะได้รับการพัฒนา 3 ทักษะ คือ ทักษะการเรียนรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต

ชิ้นที่ 3 Active Learning เพื่อให้เด็กไทยได้ “ฝึกคิด เรียนรู้ ลงมือทำจริง” เด็กทุกคนเลือกเรียนรู้ได้ตามความสนใจและความถนัด สามารถพึ่งพาตนเองได้ในการเรียนรู้ มีอิสระที่จะค้นคว้าหัวข้อที่อยากรู้ รูปแบบการเรียนรู้แบบใหม่นี้ จะช่วยให้เด็ก ๆ รักษาผลการเรียนรู้ได้คงทน และเก็บเป็นระบบความจำในระยะยาว เพราะเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างครูและผู้เรียน โดยครูจะไม่ได้แค่สอนหนังสือ แต่เปลี่ยนบทบาทไปเป็นพี่เลี้ยง สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้น่าสนใจด้วยวิธีการที่หลากหลาย ที่สำคัญต้องกระตุ้นให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้

ชิ้นที่ 4 MOE Safety Center “สถานศึกษาปลอดภัย” ปีที่ผ่านมา มีนักเรียนกว่า 6,000 เคส ที่ได้รับการช่วยเหลือผ่านโครงการนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อสร้างความโปร่งใสในสถานศึกษา ให้ผู้เรียนและครูมีความปลอดภัยในรั้วโรงเรียนอย่างยั่งยืน โดยแนวคิดที่สร้างความปลอดภัย คือ 3 ป. คือ “ป้องกัน” 4 กลุ่มภัยใกล้ตัว, “ปลูกฝัง” ให้เด็กมีภูมิคุ้มกันและทักษะชีวิต, “ปราบปราม” หมดปัญหาเดิม ไม่เพิ่มปัญหาใหม่ ที่สำคัญประชาชนทุกคนสามารถแจ้งเหตุได้ 4 ช่องทาง คือ แอปพลิเคชัน MOE Safety Center เว็บไซต์ MOESafetyCenter.com ไลน์ @MOESafetyCenter และสายด่วน โทร 02-126-6565

ชิ้นที่ 5 ปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวัน “จัดสรรมื้อคุณภาพส่งตรงจาก ศธ.” การเพิ่มมื้ออาหารคุณภาพให้เด็กไทยในครั้งนี้ ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 3,500 ล้านบาท เพื่อให้นักเรียนชั้นเด็กเล็ก – ป.6 ทุกสังกัด ได้ทานอาหารครบ 5 หมู่ โดยปรับตามขนาดของโรงเรียน ดังนี้ นักเรียน 1 – 40 คน อัตรา 36 บาท/คน/วัน, นักเรียน 41 – 100 คน อัตรา 27 บาท/คน/วัน, นักเรียน 101 – 120 คน อัตรา 24 บาท/คน/วัน และนักเรียน 121 คน ขึ้นไป อัตรา 22 บาท/คน/วัน

ชิ้นที่ 6  “หลักสูตร EV ยานยนต์สมัยใหม่” พร้อมเปิดหลักสูตร EV ปั้นเด็กไทยเข้าอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเดินหน้า ตอบรับการเติบโตของอุตสาหกรรม EV กับ รถที่ปลดปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emission Vehicle : ZEV) โดย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้พัฒนายกระดับหลักสูตรเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ปูพรมเปิดการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ ระดับ ปวช. และ ปวส. ในสถานศึกษาอาชีวะ 51 แห่งทั่วประเทศ เริ่มภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เพื่อเป็นการผลิตบุคลากรของไทยให้พร้อมก้าวเป็นศูนย์กลางการผลิตรายใหญ่ที่สุดของอาเซียน ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ภายใน 5 ปี

ชิ้นที่ 7 การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งเมื่อวันที่ 17-18 ธันวาคม ที่ผ่านมา ศธ.จัดงาน “มหกรรมการเงินเพื่อครูไทย” “Unlock a Better Life” สร้างโอกาสใหม่ เพื่อชีวิตครูไทยที่ดีกว่า งานนี้ช่วยให้ครูที่มีหนี้สินสามารถปลดหนี้ผ่านบริการไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้จาก 7 สถาบันการเงินชั้นนำ ที่มาให้คำปรึกษาด้านการเงินรายบุคคล ให้ความรู้ด้านการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่าย ซึ่งช่วยปลดล็อกอิสรภาพทางการเงินแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษากว่า 1.5 หมื่นราย มูลค่าหนี้รวมกว่า 6 พันล้านบาท ช่วยให้ครูมีสุขภาพทางการเงินที่ดี มีความสุขในชีวิตและการสอน

RANDOM

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!