ม.อ. เผยผลวิจัย ผู้ป่วยโควิด-19 และมีอาการปอดอักเสบ เสี่ยงเป็นวัณโรคสูงถึง 7 เท่า

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) โดย คณะแพทยศาสตร์ เผยผลการวิจัย พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และมีอาการปอดอักเสบ มีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นวัณโรคสูงถึง 7 เท่าของคนปกติ ส่งผลให้คนที่ติดเชื้อมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง พร้อมโชว์ผลงานวิจัยได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ eClinicalMedicine ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก

ดร.นพ.พลกฤต ขำวิชา อาจารย์ประจำสาขาวิชาระบาดวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า ทางคณะแพทยศาสตร์ ม.อ. นำโดย ดร.นพ.พลกฤต ขำวิชา สาขาวิชาระบาดวิทยา ร่วมกับ ศาสตราจารย์ นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ ประธานหลักสูตร สาขาวิชาระบาดวิทยา ร่วมดำเนินโครงการวิจัย “ในพื้นที่มีการระบาดของวัณโรค ผู้ป่วยปอดบวมจากโควิด-19 มีความเสี่ยงเป็นวัณโรคปอด” โดยได้รับการสนับสนุนข้อมูลการทำวิจัยจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ทุนวิจัยจาก National Institutes of Health (NIH) ประเทศสหรัฐอเมริกา ผลการวิจัยในครั้งนี้ พบว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 และมีอาการปอดอักเสบ มีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นวัณโรคสูงถึง 7 เท่าของคนปกติ

ทั้งนี้ ผลการวิจัยความเสี่ยงเป็นวัณโรคของผู้ป่วยโควิด-19 ได้เริ่มโครงการเก็บข้อมูลการติดตามการกินยารักษาวัณโรคในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 12 ซึ่งประกอบด้วย 7 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา โดยมีผู้ป่วยร่วมทดลองกว่า 2 หมื่นคน ตั้งแต่ เดือนมกราคมปี 2565 จากประวัติการรักษาของผู้ป่วยที่เป็นอาสาสมัครทุกเคส ผู้ป่วยวัณโรคส่วนใหญ่มักมีประวัติเคยรับการรักษาโควิด-19 แบบผู้ป่วยใน ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว คนไทยประมาณ 1 ใน 3 มีการติดเชื้อวัณโรค แต่ไม่มีอาการใด ๆ และไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น เรียกว่า วัณโรคแฝง

นอกจากนี้ เมื่อนำข้อมูลการลงทะเบียนผู้ป่วยโรคโควิด-19 และ ผู้ป่วยวัณโรค มาดำเนินการศึกษาย้อนหลัง เพื่อเปรียบเทียบอุบัติการณ์การเป็นวัณโรคปอดในผู้ป่วยปอดบวมจากโควิด-19 ที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว กับ อุบัติการณ์การเป็นวัณโรคปอดในคนทั่วไป ที่ยังไม่มีหลักฐานว่าเคยติดเชื้อโควิด-19 จากการติดตามข้อมูลผู้ป่วยทุกราย อย่างน้อย 6 เดือน พบว่า ผู้ป่วยปอดบวมจากโควิด-19 หลังได้รับการรักษาจนหายดี และออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะมีความเสี่ยงเป็นวัณโรคปอดได้มากกว่าคนทั่วไป

ทั้งนี้ ผลวิจัยความเสี่ยงเป็นวัณโรคของผู้ป่วยโควิด-19 ของ ม.อ. ได้รับการตีพิมพ์ใน eClinicalMedicine ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ ในเครือ Lancet ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยผลวิจัยยังสะท้อนถึงประเทศไทยยังเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของวัณโรค แม้ในปัจจุบันจะเป็นโรคติดเชื้อที่พบได้น้อย เพราะภูมิคุ้มกันของคนปกติทั่วไปสามารถควบคุมวัณโรคไม่ให้ก่อโรคได้ ทำให้มีข้อบ่งชี้ว่า โรคโควิด-19 อาจทำให้คนที่ติดเชื้อมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง จากความล้าของภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะเคสที่มีปอดบวมร่วมด้วย ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นวัณโรคมากกว่าคนทั่วไป

ด้าน ศาสตราจารย์ นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ ประธานหลักสูตร สาขาวิชาระบาดวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ม.อ. กล่าวว่า วัณโรคเป็นโรคที่ยังเป็นปัญหาในประเทศไทย แต่เป็นโรคที่รักษาหาย และไม่ใช่โรคที่น่ากลัว เมื่อรู้ว่ามีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นวัณโรค ต้องได้รับการรักษาโดยเร็วตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งนี้ โดยปกติแล้วผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นวัณโรค โดยมากจะเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ผู้ป่วยเบาหวาน แต่จากผลการวิจัยในครั้งนี้ ผู้ป่วยปอดบวมจากการติดเชื้อโรคโควิด-19 ก็เป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน ซึ่งผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงควรจะต้องดูแลตัวเองให้ดี และไปพบแพทย์ เพื่อติดตามอาการต่อเนื่อง ขณะที่ ระบบสาธารณสุขก็ต้องดูแลบุคคลกลุ่มนี้เป็นพิเศษ

RANDOM

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!