ครม. เห็นชอบเพิ่มจำนวนนิสิต ‘โครงการเพชรในตม’ เป็นปีละ 161 คน จบแล้วบรรจุรับราชการครูสังกัด สพฐ. ทันที

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 66 ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เสนอเพิ่มจำนวนการรับนิสิตโครงการเพชรในตม จากเดิมปีละ 45 คน เป็นปีละ 161 คน ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป พร้อมทั้งให้บรรจุบัณฑิต จำนวน 161 คน เป็นข้าราชการครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในโรงเรียนพื้นที่ภูมิลำเนาของนิสิตโครงการเพชรในตม หรือ หมู่บ้านใกล้เคียง โดยไม่ต้องสอบแข่งขันเป็นกรณีพิเศษ

โครงการเพชรในตม มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลากรในหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.) ซึ่งอยู่ในถิ่นทุรกันดารห่างไกลความเจริญ และหมู่บ้านที่มีปัญหาด้านสังคม และล่อแหลมต่อความมั่นคงของชาติ ให้มีความรู้ทั้งในด้านการศึกษา การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยทรงเป็นประมุข เพื่อให้มีความสามารถไปเป็นครู และผู้นำในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง หรือ พื้นที่ใกล้เคียง

โดยจะรับสมัครและสอบคัดเลือกนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีละ 45 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ 1 จำนวน 30 คน จากหมู่บ้าน อพป. ทั่วประเทศ (ยกเว้นผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ และ จังหวัดภูเก็ต) และกลุ่มที่ 2 จำนวน 15 คน จากหมู่บ้าน อพป. ในพื้นที่จังหวัดชายภาคแดนใต้ เพื่อเข้ารับการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกประถมศึกษา มศว. เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว จะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครูในสังกัด สพฐ. ในโรงเรียนพื้นที่ภูมิลำเนาของนิสิตโครงการเพชรในตม หรือหมู่บ้านใกล้เคียง โดยไม่ต้องสอบแข่งขันเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการประสานความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่

มศว. หน้าที่รับผิดชอบ คือ คัดเลือกนักเรียนจากหมู่บ้าน อพป. และจัดหาที่พัก ที่ศึกษาเล่าเรียน และทุนการศึกษาส่วนหนึ่ง
กอ.รมน. หน้าที่รับผิดชอบ คือ สนับสนุนทุนการศึกษา และกิจกรรมพิเศษของนิสิต สิ่งอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ ตลอดระยะเวลาจนจบการศึกษา และ ศธ. หน้าที่รับผิดชอบ คือ จัดหาตำแหน่งเพื่อบรรจุบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาแล้ว เป็นข้าราชการครูในภูมิลำเนาเดิม หรือ พื้นที่ใกล้เคียงของบัณฑิตแต่ละคน

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการเพชรในตม ครั้งที่ 1/2565 มีมิตเห็นชอบแนวทางการรับนิสิตโครงการเพชรในตมเพิ่มเติม จากเดิม ปีละ 45 คน เป็นปีละ 161 คน โดยรับนักเรียนจาก 73 จังหวัด (ยกเว้นผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้) จังหวัดละ 2 คน รวมเป็น 146 คน และในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้อีกจำนวน 15 คน เนื่องจากเป็นการขยายโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้แก่เยาวชนในหมู่บ้าน อพป. อย่างครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งนิสิตโครงการเพชรในตมจะได้รับการปลูกฝังอุดมการณ์ให้เป็นคนดี คนเก่ง มีจิตสาธารณะ เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ และมีความสามารถในการเป็นครู และผู้นำมวลชนผ่านกิจกรรมของ กอ.รมน.

นอกจากนี้ ศธ. มีความเห็นเพิ่มเติมว่า การพิจารณาจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการในแต่ละปีงบประมาณ เพื่อรองรับการบรรจุบัณฑิตโครงการเพชรในตม ผู้สำเร็จการศึกษาตามจำนวน และภูมิลำเนาของนิสิตทุน ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานวิชาเอกที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนด หากสถานศึกษาตามภูมิลำเนามีอัตรากำลังเกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด จะต้องบรรจุในสถานศึกษาใกล้เคียงโดยเรียงลำดับ ดังนี้ 1) ตามภูมิลำเนา 2) ระดับตำบล 3) ระดับอำเภอ และ 4) ระดับจังหวัด

RANDOM

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!