ภาพสะท้อนความสำเร็
จากรายงาน Global Green Skills Report 2022 ระบุว่า สัดส่วนของบุคลากรที่เป็น Green talent หรือ คนเก่งที่มีทักษะความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในตลาดแรงงานเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 40 จากปี 2015 นอกจากนี้ ในปี 2021 ร้อยละ 10 ของประกาศรับสมัครงานบน LinkedIn มีการระบุอย่างชัดเจนถึงความต้องการผู้สมัครที่มีทักษะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างน้อยหนึ่งทักษะ แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเทรนด์อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการองค์กรตามกรอบการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล กำลังเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองเห็นว่า การให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี นวัตกรรม การบริหารจัดการองค์กรโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล กำลังเป็นที่สนใจและโลกกำลังมีความต้องการบุคลากรทางด้านนี้ จึงได้พัฒนา หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สหสาขาวิชานวัตวิศวกรรมเพื่อความยั่งยืน (Innovative Engineering for Sustainability) หรือ “หลักสูตร IES” ขึ้นมา
ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และอาจารย์ประจำหลักสูตร IES กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักสูตร IES เปิดกว้างแก่ผู้ที่มีความสนใจในศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ที่ต้องการเข้าศึกษาในระดับปริญญาโท ซึ่งหลักสูตร ฯ นี้ ไม่ได้รับเฉพาะคนที่จบสายการเรียนวิทยาศาสตร์เท่านั้น ไม่ว่าจะจบสาขาอะไรมา ก็สามารถเข้าศึกษาในหลักสูตรฯ นี้ได้ และยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการมีงานทำหลังเรียนจบทันที และต้องการค่าตอบแทนที่สูง เนื่องจากเป็นหลักสูตรที่ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้วิเคราะห์ข้อมูลความต้องการของตลาดแล้วว่า มีความต้องการบุคลากรด้านนี้จำนวนมาก และยังไม่มีสถาบันการศึกษาไหนที่ให้ความรู้ทางด้านนี้โดยเฉพาะ หลักสูตร ฯ นี้จึงเป็นโอกาสของผู้ที่สนใจงานด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน รวมไปถึงการบริหารจัดการองค์กรโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล อีกทั้ง การเรียนในหลักสูตรฯ นี้ ยังจะทำให้วิธีคิดของผู้เรียนเปลี่ยนไปตามกระแสของโลกที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการทำธุรกิจบนความยั่งยืน ปัจจุบันพบว่า หลายหน่วยงานจำเป็นจะต้องประยุกต์การบริหารจัดการองค์กรโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG ในการจัดทำรายงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมภายในองค์กร เพื่อยื่นต่อหน่วยงานด้านตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งความต้องการเฉพาะด้านนี้ส่งผลให้บุคลากรที่เรียนจบทางด้านนี้มีโอกาสในการทำงานกับองค์กรระดับนานาชาติ พร้อมค่าตอบแทนที่สูงตามมาด้วย
จากมุมมองและประสบการณ์ของคณาจารย์ประจำหลักสูตร IES พบว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน จะคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจที่ต้องสร้างการเติบโตอย่างทั่วถึงและยั่งยืน (Inclusive growth) และไม่ส่งผลที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) ทำให้องค์กรต่าง ๆ พยายามหาเครื่องมือที่จะช่วยบรรลุสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon footprint) การซื้อขายคาร์บอนในรูปคาร์บอนเครดิต (Carbon credit) การบริหารจัดการด้วยระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) หรือ การเข้าถึงเงินทุนสำหรับการทำธุรกิจที่เน้นความยั่งยืน (Taxonomy) รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนของการดำเนินธุรกิจให้สามารถสร้างคุณค่าจากสินค้าหรือการบริการของธุรกิจให้กับสังคมได้ โดยยังคำนึงถึงผลประกอบการที่ได้รับอยู่ (Creating share value) หรือ CSV ทำให้หลายประเทศเริ่มนำการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตเพื่อความยั่งยืน มาผนวกเข้ากับการดำเนินธุรกิจ และนำมาเป็นกฎเกณฑ์ในการพิจารณาในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคหรือนักลงทุน อีกทั้งเกิดแนวคิดการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมแบบมีมูลค่า กล่าวคือ ต้องมีรายได้จากการจัดการสิ่งแวดล้อมที่กำลังได้รับความสนใจในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งหลักสูตร IES ได้มีการจัดการเรียนการสอนอันครอบคลุมศาสตร์เหล่านี้ เพื่อตอบโจทย์แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน
การหลอมรวมศาสตร์จากหลายแขนงเข้ามาไว้ด้วยกัน คือ จุดเด่นของหลักสูตรนี้ โดยทางหลักสูตรจะดำเนินการเรียนการสอน โดยอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญจากหลายศาสตร์ ทั้งวิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี เป็นต้น และยังเปิดกว้างให้ผู้เรียนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น รวมไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจเรื่องความยั่งยืน เข้ามาเรียนได้อย่างหลากหลาย
ผู้ที่สนใจเรียนต่อในหลักสูตร IES เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ ถึง 15 พฤษภาคม 2566 ที่ https://www.eng.chula.ac.th/th/ies สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-218-7813 และอีเมล iesprogram@eng.chula.ac.th