เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ร่วมลงนามในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการและบริการทางการศึกษา ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กับ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมี นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ร่วมลงนาม พร้อมทั้งผู้แทนจากสองหน่วยงานเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ
นายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. เปิดเผยว่า การจัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการและบริการทางการศึกษาในครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันเพื่อผลักดัน สนับสนุนให้สถานศึกษาในสังกัด สพฐ. มีการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ มีการเชื่อมโยงแหล่งการเรียนรู้นอกห้องเรียนกับสวนสัตว์ทั้ง 7 แห่ง ขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีความสอดคล้องกับเนื้อหาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) และกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อสร้างความตระหนักให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการช่วยอนุรักษ์สัตว์ป่า ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยผลที่จะเกิดกับนักเรียน คือ นักเรียนได้รับประสบการณ์ในการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง ได้ฝึกทักษะการสังเกต การตั้งคำถาม การคิด การแก้ไขปัญหา ทักษะการสื่อสาร การทำงานร่วมกัน ตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในทุกระดับชั้นตั้งแต่ปฐมวัยจนถึงมัธยมศึกษา เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 รวมทั้งขยายผลไปสู่การเรียนรู้เชิงบูรณาการในอนาคต
ด้าน นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า “เป็นแหล่งเรียนรู้ ท่องเที่ยว และอนุรักษ์สัตว์ป่า ที่ได้มาตรฐาน ทันสมัย สู่สวนสัตว์ชั้นนำในอาเซียน” จึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาขีดความสามารถขององค์กร พร้อมกับรักษามาตรฐานการดำเนินงานของแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้อยู่ในระดับสากล เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ที่กำหนดแนวทางการจัดการศึกษา ในมาตรา 25 ซึ่งการจัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการและบริการทางการศึกษาในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสอันดีที่ 2 หน่วยงาน จะร่วมกันพัฒนาปรับปรุงกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์และสิ่งแวดล้อม ของทั้ง 6 สวนสัตว์ และ 1 โครงการ ได้แก่ 1. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี 2. สวนสัตว์เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 3. สวนสัตว์สงขลา จังหวัดสงขลา 4. สวนสัตว์นครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 5. สวนสัตว์ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 6. สวนสัตว์อุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 7. โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) และกลุ่มสาระการเรียนรู้
ขณะที่ นายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา กล่าวว่า องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีสวนสัตว์ในสังกัด ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตที่ให้บริการด้านการเรียนรู้เรื่องสัตว์ป่า การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แก่นักเรียนและประชาชนทั่วไป ซึ่งภารกิจด้านการศึกษาขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ส่งเสริมให้เยาวชนมีการเรียนรู้ตลอดชีวิต จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและสร้างเครือข่ายแหล่งการเรียนรู้ร่วมกับหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนำไปพัฒนาบริการทางการศึกษาและส่งเสริมให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อสัตว์ป่า การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมโยงการเรียนรู้ในสวนสัตว์กับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)