สพฐ. จับมือ กรมสุขภาพจิต และ กสศ. MOU พัฒนาระบบสารสนเทศคัดกรองนักเรียนกลุ่มเสี่ยงด้านสุขภาพจิต ให้ได้รับการช่วยเหลือทันท่วงที ผ่านระบบ School Health HERO

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ร่วมด้วย นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต และ นายไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจเพื่อบูรณาการความร่วมมือและส่งต่อข้อมูลนักเรียนร่วมกัน ภายใต้ โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อหลักประกันโอกาสทางการเรียนรู้ การดูแลช่วยเหลือนักเรียน และระบบสุขภาพจิตโรงเรียนวิถีใหม่ (School Health Hero) ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้

นับตั้งแต่ปี 2563 สพฐ. กรมสุขภาพจิต และ กสศ. ได้ร่วมมืออย่างต่อเนื่อง ในการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษา เพื่อให้เกิดระบบการทำงานโดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการประเมินความเสี่ยงของนักเรียนที่ครอบคลุมทุกมิติ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันอีกหนึ่งมิติที่มีความสำคัญ โดยจะเป็นการทำงานในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น กับ กลุ่มนักเรียนที่มีแนวโน้มความเสี่ยง หรือ มีปัญหาด้านพฤติกรรม อารมณ์ สังคม และ สุขภาพจิต ร่วมกับ กรมสุขภาพจิต ที่ สพฐ. และ กสศ. จะบูรณาการงานเชิงระบบและกลไก เพื่อส่งต่อข้อมูลนักเรียนไปยังระบบสุขภาพจิต โรงเรียนวิถีใหม่ หรือ School Health Hero เพื่อสนับสนุนให้เกิดกลไกการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่สอดคล้องกับความต้องการเป็นรายบุคคล การพัฒนาชุดความรู้ความร่วมมือทางวิชาการ และ ร่วมกันจัดทํา data catalogue ในการให้ความช่วยเหลือ ส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุนนักเรียนให้ครอบคลุมทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพ

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นต้นแบบสำคัญของการจัดทำระบบสารสนเทศ Big data ของประเทศไทย ในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนผ่านเครื่องมือดิจิทัลที่ 3 หน่วยงาน คือ สพฐ. กรมสุขภาพจิต และ กสศ. จับมือกันเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนการส่งต่อข้อมูลนักเรียนเพื่อสร้างกลไกการดูแลช่วยเหลือด้านสุขภาพ ทั้งจิตใจ อารมณ์ และ พฤติกรรม ตามวัยของนักเรียนในโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วทันท่วงที โดยมีความพร้อมครบทุกมิติ ทั้งในเรื่องการส่งเสริม การป้องกัน การส่งต่อ และการดูแล ซึ่งเป็นเครื่องมือและความร่วมมือสำคัญสำหรับการจัดทำมาตรการป้องกันนักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่หลุดออกจากระบบการศึกษา ผ่านการระดมความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอกกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ โดยที่ผ่านมา ได้เริ่มทดลองนำร่องการพัฒนาต้นแบบระบบสารสนเทศเพื่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ครอบคลุม 28 เขตพื้นที่การศึกษา มีสถานศึกษาเข้าร่วมโครงการ 1,050 แห่ง

ความร่วมมือในครั้งนี้ จะขยายการทำงานกับโรงเรียน สพฐ. ทั่วประเทศ เพื่อประสานแนวทางในการส่งต่อข้อมูลนักเรียน และส่งต่อความช่วยเหลือให้กับหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลอย่าง กรมสุขภาพจิต มาติดตามนักเรียนที่มีภาวะความเสี่ยงด้านพฤติกรรม อารมณ์ สังคม และปัญหาสุขภาพจิตในสถานศึกษา รวมถึงประสานให้ผู้เชี่ยวชาญ บุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งระดับส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมองค์ความรู้สำหรับครู การคัดกรอง การจัดทำแนวทาง หรือ มาตรการการป้องกันภาวะเสี่ยงด้านพฤติกรรม อารมณ์ และสังคมของนักเรียน โดยการดำเนินการทั้งสามฝ่ายตกลงว่า จะรักษาข้อมูลของนักเรียนหรือ ผู้รับบริการเป็นความลับ ไม่มีการเผยแพร่ให้บุคคลภายนอกได้รับทราบข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมด เว้นแต่กรณีที่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของข้อมูล

ด้าน นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสุขภาพจิต ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ร่วมพัฒนาระบบสุขภาพจิตโรงเรียนวิถีใหม่ (School Health HERO) ได้พัฒนาในส่วนของแบบประเมินคัดกรองนักเรียนที่มีประสิทธิภาพ การจัดเตรียมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต HERO Consultant เพื่อช่วยเหลือครู และองค์ความรู้ในรูปแบบ E-Learning ด้านสุขภาพจิต เพื่อสนับสนุนครูในการดูแลสุขภาพจิตนักเรียน ภายใต้โครงการเสริมสร้างทักษะชีวิต และการดูแลปัญหาสุขภาพจิตเด็กและเยาวชนไทย ด้วยระบบสุขภาพจิตดิจิทัล ในการลดปัญหาพฤติกรรม อารมณ์ และสังคม ในนักเรียนกลุ่มเสี่ยง

ทั้งนี้ ผลจากการดำเนินงานร่วมกัน ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2563 จนถึงปัจจุบัน พบว่า จำนวนนักเรียนที่เข้าสู่ระบบ School Health HERO ได้รับการคัดกรองและดูแลช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตเพิ่มมากขึ้น และยังสามารถนำนักเรียนกลุ่มเสี่ยงให้ได้รับการดูแล ในกรณีที่นักเรียนมีความยุ่งยากซับซ้อน หรือ มีความจำเป็นต้องเข้ารับการดูแลรักษา ให้เข้าสู่ระบบบริการสาธารณสุขได้

ทั้งนี้ ระบบสุขภาพจิตโรงเรียนวิถีใหม่ คือ ระบบที่ออกแบบเพื่อให้ครูใช้เฝ้าระวัง เรียนรู้ และรับคำปรึกษา เพื่อดูแลนักเรียนที่เสี่ยงต่อปัญหาพฤติกรรม อารมณ์ และทักษะสังคม ดูแลสุขภาพจิตนักเรียนในนักเรียนกลุ่มเสี่ยง เป็นการพลิกโฉมรูปแบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในระบบเดิมที่เน้นงานเอกสาร นำไปสู่ระบบ HERO ที่มีขั้นตอนการดำเนินงานเป็นระบบ ครูสามารถเฝ้าระวังคัดกรองช่วยค้นหาเด็กกลุ่มเสี่ยงได้รวดเร็ว ด้วยคำถาม 9 ข้อง่าย ๆ ในการคัดกรองเด็ก ได้แก่ ซนเกินไป ใจลอย รอคอยไม่ได้ หงุดหงิดง่าย ท้อแท้ เบื่อหน่าย ไม่อยากไปโรงเรียน ถูกเพื่อนแกล้ง แกล้งเพื่อน และ ไม่มีเพื่อน ให้ครูประเมินนักเรียนผ่านระบบ HERO ได้ และทราบผลการประเมินนักเรียนทันที

ทางด้าน นายไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวเสริมว่า ภายใต้ความร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงาน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษา ซึ่งมีการดำเนินงานในเขตพื้นที่นำร่อง จำนวน 28 เขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา 1,050 แห่งทั่วประเทศ ประสบความสำเร็จ ด้านจุดเน้นการทำงานในการบูรณาการการเชื่อมโยงฐานข้อมูลนักเรียนจากการคัดกรองความยากจน โครงการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข หรือ CCT ให้ได้รับการดูแลช่วยเหลือ ทั้งกลุ่มนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จนได้รับการจัดสรรทุนเสมอภาค และทุนอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานจากต้นสังกัด และกลุ่มนักเรียนทั่วไป ที่เผชิญปัญหาประเภทต่าง ๆ จนได้มีการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานคัดกรองความเสี่ยงในมิติอื่น ๆ นอกจากความยากจน

ระบบสารสนเทศเพื่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เป็นระบบที่มีเครื่องมือคัดกรองความเสี่ยงที่หลากหลายมิติ มีการประมวลผลเก็บข้อมูล ซึ่งจะช่วยให้ครูทราบความเสี่ยง หรือ ปัญหาที่นักเรียนมี เพื่อที่ครูจะได้ดำเนินการสนับสนุนป้องกัน หรือ ส่งต่อนักเรียนได้ทันเวลา รวมทั้งมีการส่งต่อข้อมูลในภาพรวมสถานการณ์ของโรงเรียนขึ้นไปยังเขตพื้นที่การศึกษา และ สพฐ.ส่วนกลาง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการดำเนินงานของสถานศึกษา เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาเชิงรุกได้จากการทำงานหน้างานของคุณครูผู้ปฏิบัติ

จากการทำงานเก็บข้อมูลและพัฒนาปรังปรุงการดำเนินงานร่วมกัน พบว่า ในปีการศึกษา 2565 สถานศึกษาดำเนินการบันทึกข้อมูลและคัดกรองนักเรียน ผ่านระบบ OBECCARE จำนวน 153,483 คน เป็นนักเรียนทุนเสมอภาค จำนวนกว่า 18,226 คน ซึ่งแนวโน้มความเสี่ยงด้านพฤติกรรม อารมณ์ สังคม หรือ ปัญหาสุขภาพจิต เป็นอีก 1 มิติ ที่มีความสำคัญ และเป็นปัญญายอดฮิตที่ต้องเร่งดำเนินการ และเด็กได้รับผลกระทบจากสภาพสังคม กสศ. สพฐ. กรมสุขภาพจิต จึงเกิดการพูดคุยหารือการขับเคลื่อนงานร่วมกันของทั้ง 3 หน่วยงาน และเกิดจุดเริ่มต้นการทำงานทั้งด้านวิชาการในการพัฒนาองค์ความรู้ การส่งต่อข้อมูลร่วมกับระบบสุขภาพจิตโรงเรียนวิถีใหม่ หรือ School Health Hero โดย กรมสุขภาพจิต จะส่งผู้เชี่ยวชาญโดยตรงในด้านสุขภาพจิตเข้ามาร่วมช่วยเหลือและเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินงานดำเนินการ เพื่อให้เกิดการทำงานที่เป็นระบบงานในการส่งเสริมสนับสนุนครู ลดภาระการทำงานที่ซ้ำซ้อน ซึ่งนำมาสู่การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ซึ่งจะเห็นผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้นในอนาคตอันใกล้

อ้างอิงจาก https://shorturl.asia/jcUFH

RANDOM

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เชิญชวนสถานศึกษาระดับปวส. หรือ อนุปริญญา ยื่นข้อเสนอเข้าร่วม “โครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ปี 2567” เปิดรับข้อเสนอโครงการ ตั้งแต่บัดนี้ – 9 ม.ค. 67

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!