นิสิตคณะวิศวฯ จุฬาฯ คว้ารางวัลชนะเลิศ MGA Award จาก ผลงานนวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit ชูจุดเด่นการใช้เทคโนโลยี IoT เชื่อมต่ออุปกรณ์และสั่งการออนไลน์ เก็บข้อมูล ลดความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าหน้างานแบบเรียลไทม์
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยและหลายพื้นที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับปัญหาไฟป่า ที่ปะทุขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงอย่างมีนัยยะสำคัญ สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อสภาพแวดล้อมในวงกว้าง รวมถึงส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของมนุษย์และสัตว์เป็นจำนวนมาก
การควบคุมไฟป่าให้เร็วที่สุด จึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง แม้จะมีการใช้เครื่องบินโปรยสารควบคุมไฟ แต่การดับไฟป่า และอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยง ก็ยังคงต้องอาศัยบรรดาอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ที่ต้องฝ่าเปลวเพลิง เสี่ยงภัยอันตรายนานา ทั้งความร้อนและควันพิษที่เกิดจากเผาไหม้ ซึ่งล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อาทิ คาร์บอนมอนอกไซด์ (carbon monoxide) ไนโตรเจนออกไซด์ (nitrogen oxides) สารประกอบอินทรีย์ชนิดระเหยง่าย (volatile organic compounds) ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และ อื่น ๆ
ปัญหาดังกล่าว จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กลุ่มนิสิตชั้นปีที่ 4 จาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในชื่อทีม TAF ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันการสร้างและพัฒนาชิ้นงานต้นแบบ โดยใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ในระดับนานาชาติ “Rapid Prototype Development (RPD) Challenge – a multi GNSS Asia programme” ซึ่งในงานนี้มีทีมนิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยในภูมิภาคเอเชียเข้าร่วมกว่า 40 ทีม และ นวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit ของ นิสิตวิศวฯ จุฬาฯ ได้รับรางวัลรางวัลชนะเลิศ (MGA Award)
นิธิ อจละนันท์ นิสิตภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า จุฬาฯ หนึ่งในสมาชิกทีม TAF เล่าว่า ชุดกันไฟ Smart Suit ที่พัฒนาขึ้นมานี้ เราได้แรงบันดาลใจมาจากการแก้ปัญหาไฟป่าในภาคเหนือของประเทศไทย รวมถึงภาวะวิกฤตการดับไฟป่าในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งในหลาย ๆ ครั้ง ก่อให้เกิดการสูญเสียบุคลากร เจ้าหน้าที่ และ อาสาสมัครในการดับไฟป่าไปอย่างน่าสะเทือนใจ ซึ่งทางทีมหวังว่า ชุดกันไฟ Smart Suit จะเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดความเสี่ยง และการสูญเสียนักดับเพลิง และเป็นส่วนสำคัญในแก้ไขปัญหาไฟป่าต่อไปในอนาคต
ทีม TAF ประกอบด้วย หนุ่มสาวไฟแรง 5 คน จาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งนอกจาก นิธิ แล้ว ยังมี นฤดม หมี-อิ่ม นิสิตภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า นิชานันท์ ชุณห์เสรีชัย นิสิตภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ณฐพงศ์ อินทรสุข นิสิตภาควิชาวิศวกรรมสำรวจ และ อนุธิดา ฤทธิพันธ์ นิสิตภาควิชาวิศวกรรมสำรวจ ซึ่งพวกเขาทั้งหมดกำลังจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในเดือนตุลาคมที่กำลังจะถึงนี้
Smart Suit นวัตกรรมชุดกันไฟ Hi-Technology
การดับไฟป่ามีความเสี่ยงสูงมาก ซึ่งหลายครั้งอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าได้รับบาดเจ็บ หรือ กระทั่งเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ความสูญเสียดังกล่าวเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ การสื่อสารที่ผิดพลาด การถูกรบกวนของสัญญาณการทำงาน อุปกรณ์ป้องกันที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือ ระบบการจัดการไม่รัดกุมเพียงพอ
“ทีมของเรามีโอกาสไปสังเกตการณ์การปฏิบัติงานในพื้นที่จริง ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้สัมภาษณ์และเก็บข้อมูลจากพี่ ๆ อาสาดับไฟป่า ซึ่งเราก็ได้พบปัญหาที่ค่อนข้างซีเรียส ทั้งเรื่องของการจัดการทีม และความปลอดภัย ชุดกันไฟ Smart Suit ของเราถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว” นิธิ กล่าว
ทีม TAF ออกแบบนวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) เครือข่ายรวมของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อถึงกัน และเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ กับ ระบบคลาวด์ และการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ด้วยกันเอง โดยใช้ชิปคอมพิวเตอร์และการสื่อสารโทรคมนาคมที่มีแบนด์วิดท์สูง ซึ่งทีมเลือกใช้บอร์ดคอมพิวเตอร์ Sony spresence board (บอร์ดคอมพิวเตอร์ สำหรับ IoT) และอุปกรณ์เซนเซอร์ต่าง ๆ ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์และสั่งการออนไลน์ โดยติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ไว้กับชุดกันไฟแบบดั้งเดิม
“เราติดตั้งอุปกรณ์ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ติดตั้งง่าย และราคาไม่แพง ที่สำคัญ ชุดกันไฟ Smart Suit มีระบบแสดงข้อมูลและสร้างแผนที่แบบโต้ตอบ (interactive map) ได้แบบเรียลไทม์ โดยข้อมูลที่เก็บได้จากชุดกันไฟนี้ ถือเป็นข้อมูลเชิงพื้นที่ (spatial data) ซึ่งสามารถวัดค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ได้ เช่น ค่าฝุ่น PM 2.5 ค่าคาร์บอนมอนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ความชื้นสัมพัทธ์ อุณหภูมิ ที่สามารถนำมาใช้บริหารสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ” นิธิ เล่าถึงประสิทธิภาพของชุดกันไฟ Smart Suit
จุดเด่นของนวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit คือ ระบบแจ้งเตือนเพื่อความปลอดภัยในการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า
“สิ่งที่ทำให้ทางคณะกรรมการเทคะแนนให้ทีมเรามากที่สุด น่าจะเป็นเรื่องการตรวจวัดค่าความร้อน” นฤดม นิสิตภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า จุฬาฯ ตัวแทนของทีมกล่าว Smart Suit สามารถแจ้งเตือนค่าความร้อนในกรณีที่อุณหภูมิสูงเกินกำหนด หากเซนเซอร์พบว่า มีความร้อนสูง และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ก็จะแจ้งเตือนทันที เพื่อป้องกันการเกิดโรคลมร้อน หรือ ฮีทสโตรก อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ การแจ้งเตือนค่าคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซพิษที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ ซึ่งหากสูดดม หรือ ได้รับเข้าสู่ร่างกายเกินค่ามาตราฐาน จะทำให้เสียชีวิตทันที การแจ้งเตือนจะทำให้ผู้สวมใส่ ซึ่งอยู่ในสถานการณ์หน้างานรับทราบได้ทันท่วงที ก่อนที่จะเกิดความสูญเสีย
ด้วยระบบแสดงข้อมูล และสร้างแผนที่แบบเรียลไทม์ ชุดกันไฟ Smart Suit สามารถตรวจจับพิกัดที่อยู่ของเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครดับไฟป่าที่สวมอยู่ ช่วยให้เจ้าหน้าที่ และศูนย์ควบคุม สื่อสารข้อมูลถึงกันได้แบบเรียลไทม์ เพื่อรับมือและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะเมื่อเกิดสถานการณ์ เช่น ลมเปลี่ยนทิศ จึงช่วยให้การบริหารสถานการณ์ไฟป่า การอพยพเคลื่อนย้าย หรือ สั่งการเพื่อหลบแนวไฟป่าที่กำลังโหมลามอยู่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และ การสูญเสียในขณะปฏิบัติงาน
นฤดม เล่าต่อเกี่ยวกับการทำงานของระบบแจ้งเตือนของชุดกันไฟ Smart Suit ว่า ศูนย์ควบคุม หรือ control center สามารถมอนิเตอร์สถานการณ์ และข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกเก็บจากเซนเซอร์จากระยะไกลได้ โดยส่งผ่าน LoRa (การเชื่อมต่อไร้สายสำหรับ IoT) ซึ่งรวมไปถึงตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ และ hotspot (จุดที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลก) จากภาพถ่ายดาวเทียมที่ใช้สำหรับการตรวจวัดโลก สภาพอากาศ และนิยมนำมาใช้ติดตามไฟป่า อย่าง MODIS (Moderate Resolution Imaging Spectroradiometer) หรือ VIIRS (Visible Infrared Imaging Radiometer Suite) เพื่อส่งแจ้งเตือนให้กับเจ้าหน้าที่ และในกรณีที่ไฟป่าทวีความรุนแรง และลุกลาม ก็สามารถใช้ปุ่มเตือนภัยเพื่อแจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ และอาสาดับไฟป่าให้อพยพเคลื่อนย้ายผ่านทาง EWS messages (Early warning system messages) ได้เช่นเดียวกัน
เปิดรับทุกความร่วมมือ ต่อยอดนวัตกรรมเพื่อผลิตใช้งานจริง
ปัจจุบัน นวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit ที่เพิ่งคว้ารางวัลใหญ่ระดับโลกชิ้นนี้ ยังคงเป็นเพียงผลงานชิ้นต้นแบบเท่านั้น ซึ่งน้อง ๆ สมาชิกในทีม TAF แม้จะแยกย้ายกันไปเติบโตตามเส้นทางที่แต่ละคนเลือก แต่ก็ยังรู้สึกภาคภูมิใจและหมายมั่นว่า วันหนึ่ง นวัตกรรมต้นแบบชิ้นนี้ จะได้รับการพัฒนาไปสู่นวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง เพื่อจัดการกับสถานการณ์ไฟป่าที่กำลังเป็นปัญหา และรักษาชีวิตของอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ผู้เสียสละให้มีความปลอดภัยและทำงานได้สะดวกสบายขึ้น
“ชุดกันไฟ Smart Suit ที่เราพัฒนาขึ้น ยังเป็นเพียงต้นแบบ โดยที่เราเลือกใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีเท่าที่เราในฐานะนิสิตจะหาได้ และราคาไม่แพงมาใช้ ในอนาคตหากมีการต่อยอดนำไปผลิตเพื่อใช้งานจริงได้ ก็สามารถที่จะอัปเดตอุปกรณ์ หรือ ใช้เทคโนโลยีที่มีความทันสมัยกว่านี้ หรือ เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปได้อีก” นฤดม กล่าวทิ้งท้าย
หน่วยงาน หรือ บริษัทใดสนใจนำต้นแบบ “นวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit” ไปพัฒนาต่อเพื่อผลิตสำหรับใช้งานจริง ทางน้อง ๆ ทีม TAF ก็พร้อมและยินดีที่จะหารือ ถ่ายทอดองค์ความรู้ และร่วมมือพัฒนานวัตกรรม เพราะปัญหาไฟป่าเป็นวาระสำคัญและเร่งด่วน ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ที่ยังรอคอยนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อใช้จัดการกับสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้สนใจสามารถติดต่อกับสมาชิกทีมโดยตรง หรือ ติดต่อผ่าน คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทร. 02-218-6309-10