แนวโน้มเทคโนโลยีที่มาแรงอย่าง AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ กำลังบ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมาทดแทน (Disrupt) งานของมนุษย์บางอย่าง โดยเฉพาะงานที่ทำซ้ำ ๆ เหมือนเดิม (Routine) และ งานด้านการบริการ เช่น Call center หรือ Teller เป็นต้น ซึ่งมีโอกาสที่จะถูกทดแทนก่อนอาชีพอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเปิดตัว ChatGPT กลับพบว่า แนวโน้มของการ Disrupt อาจเร็วขึ้น รวมทั้งปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง อาทิ พฤติกรรมผู้บริโภค การต้องการลดต้นทุนของเจ้าของกิจการ เทคโนโลยีที่พร้อมใช้งานได้ รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ เช่น Covid-19 ที่เป็นตัวกระตุ้นให้คนหันมาพึ่งการใช้งานเทคโนโลยีมากขึ้น แต่หากเรามองในอีกมุมหนึ่งจะพบว่า เราสามารถใช้งาน AI เป็นตัวช่วยที่ดีและรวดเร็วในการทำงานของเราได้ ทำให้อาชีพ หรือ ทักษะใหม่ในการทำงานร่วมกับ AI เช่น “Prompt Engineer” สร้างคุณค่าเพิ่มให้กับคนที่มีทักษะด้านนี้ได้อย่างมาก
ดร.ชัยพร เขมะภาตะพันธ์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ (CITE) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) หรือ DPU ได้กล่าวถึง Prompt Engineer ว่า อาชีพหรือทักษะนี้ทำหน้าที่สื่อสารกับ AI ให้ทำงานหรือให้ผลลัพธ์ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการเขียนข้อความหรือชุดคำถามหรือชุดสั่งการให้ AI เข้าใจและสามารถตอบคำถามหรือดำเนินการให้ตรงตามความต้องการหรือปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างแม่นยำหรือตรงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งจะเห็นได้จากการใช้งาน ChatGPT หรือ Bard หรือ แชตบอทอัจฉริยะอื่น ๆ เป็นต้น เพราะโดยปกติแล้ว AI ที่เราคุยด้วย หรือ ทำงานด้วย จะเปรียบเสมือนคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักวิธีคิดของเรา ดังนั้น การสื่อสารหรือสั่งการที่ซับซ้อนก็จะมีขั้นตอน หรือ กระบวนการบางอย่าง เช่นเดียวกับ ที่เราต้องสื่อสารกับคนอื่น ๆ ที่เพิ่งรู้จักกัน โดยคนที่จะมาเป็น Prompt Engineer ต้องมีองค์ความรู้หลักที่ถูกต้อง และมีความเชี่ยวชาญในการพูดคุยกับ AI ผ่านคำถาม หรือ คำสั่งที่ป้อนเข้าไป หากถามแบบไม่ชัดเจน ไม่มีหลักการ ก็จะได้คำตอบกลับมาที่ไม่ตรงตามความต้องการ หรือ ผิดพลาดไปเลย อย่างไรก็ตาม อาชีพ Prompt Engineer เป็นที่กำลังมาแรงในต่างประเทศ เพราะเป็นที่ต้องการของตลาด และมีรายได้ค่อนข้างสูง แต่ยังไม่ปรากฎอาชีพนี้ในประเทศไทย
คณบดี CITE DPU กล่าวเพิ่มเติมว่า ChatGPT หรือ Bard นั้นเป็น AI ที่เป็น Chatbot ที่มีฐานความรู้มากมายมหาศาลจากการเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต และสามารถรวบรวมข้อมูล หรือ ความรู้ต่าง ๆ ที่มีอยู่มาเรียบเรียงเป็นคำตอบให้เราได้ ส่วนคำตอบจะถูกต้อง หรือ ตรงกับความต้องการของผู้ถามหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ป้อนคำถาม หากผู้ป้อนคำถามไม่มีองค์ความรู้ในการจัดการชุดคำสั่งที่ถูกต้อง เพื่อป้อนข้อมูลให้กับ AI ในการตอบ ChatGPT คำตอบที่ได้อาจจะไม่ตรงกับข้อมูลที่ต้องการ เพราะฉะนั้น คนที่จะมาทำหน้าที่ดังกล่าว หากไม่มีความรู้ และเชื่อคำตอบจาก AI ทั้งหมด อาจเจอปัญหาในการใช้ AI ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง หรือ ได้ข้อมูลที่ผิดพลาด เพราะมั่นใจและเชื่อประสิทธิภาพของ AI มากเกินไป โดยไม่มีการตรวจสอบ ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่โลกของ AI สิ่งที่จำเป็นต้องมี Knowledge หลัก ๆ ที่สำคัญในอาชีพนั้น ๆ จึงจะสามารถใช้งาน หรือ สั่งการควบคุม AI เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยงานเราได้ต่อไป
และเพื่อเตรียมรับมือกับเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI วิทยาลัย CITE รวมทั้ง มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หรือ DPU ได้เตรียมความพร้อมให้นักศึกษา โดยการเพิ่มทักษะเรื่อง Prompt Engineer ให้กับนักศึกษา ให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ที่กำลังมาแรงนี้ได้ นอกจากนี้ ทุกรายวิชาที่สอนเน้นความทันสมัยนำไปปฏิบัติ และใช้งานได้จริง ที่สำคัญ ก่อนจบการศึกษา นักศึกษาต้องทำ Senior Project เพื่อให้ได้มาตรฐานการศึกษา และต้องทำโครงการสหกิจศึกษา หรือ ฝึกงานอีก 4 เดือน เพื่อฝึกประสบการณ์ และสัมผัสบรรยากาศในการทำงานจริง เพื่อพัฒนาทักษะและประสบการณ์ที่สำคัญให้นักศึกษามีความพร้อมในการประกอบอาชีพ และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://cite.dpu.ac.th/