ผศ.ดร.ศิริเดช คำสุพรหม คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) หรือ DPU เปิดเผยว่า วิทยาลัยนานาชาติ DPU ลงนามความร่วมมือกับ Gyeongsang National University (GNU) ประเทศเกาหลี เตรียมเปิดหลักสูตรภาษาเกาหลี ในปีการศึกษา 2567 ซึ่งจะเป็นหลักสูตรภาษาตะวันออกอีกหนึ่งสาขา เพิ่มเติมจากสาขาภาษาญี่ปุ่น โดยหลักสูตรภาษาตะวันออกดังกล่าว เป็นหลักสูตร 2+2 เรียนที่ประเทศไทย 2 ปี และ อีก 2 ปีหลัง จะเรียนที่ประเทศเกาหลี ณ Gyeongsang National University ที่ได้ลงนามความร่วมมือกัน นอกจากนี้ ภายหลังจบการศึกษาจะได้รับปริญญา 2 ใบ ทั้งจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และ Gyeongsang National University (GNU) และเมื่อผ่านการสอบวัดระดับภาษาเกาหลี (TOPIK) ทั้ง 2 มหาวิทยาลัย ยังเตรียมช่องทางในการทำงานไว้รองรับบัณฑิตที่จบการศึกษาอีกด้วย
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้ร่วมกับ Gyeongsang National University Daegu Haany University Kortop Media และ ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย เปิดศูนย์ “Korean Language and Cultural Center” ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 1 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 โดยมี ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นประธานเปิดงาน ร่วมกับ ผศ.ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และ Hyan-wook Kim รองคณบดีฝ่ายต่างประเทศและความร่วมมือ Gyeongsang National University Park, Soo Jin รองอธิการบดี Daegu Haany University Koh, Dae Hwa ประธาน Kortop Media และ นางสาวธันยากานต์ หิรัญสิทธิทวีกุล ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย ร่วมในพิธีเปิด โดยศูนย์ดังกล่าวจัดตั้งขึ้น เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมของประเทศต่าง ๆ ทั้งนี้ ภารกิจของศูนย์จะมีการเปิดการเรียนการสอนหลักสูตรภาษาเกาหลี เพื่อให้นักศึกษาชาวไทยได้เพิ่มทักษะภาษาที่สาม รวมทั้งเข้าใจในวัฒนธรรมของประเทศเกาหลีมากขึ้น อันจะนำไปสู่การเพิ่มโอกาสใหม่ ๆ ในการทำงาน และการทำธุรกิจ
คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ มธบ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า อิทธิพลทางวัฒนธรรมของเกาหลีเฟื่องฟูมาก เรียกว่าเป็น Soft Power ที่ติดอันดับต้น ๆ และขยายอิทธิพลไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย นอกจากนี้ ภาครัฐยังสนับสนุนให้ภาคธุรกิจเกาหลีเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น โดยข้อมูลจาก บีโอไอ ระบุ มีนักลงทุนเกาหลีเข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้ว จำนวนกว่า 400 ราย และล่าสุด ได้เชิญชวนนักลงทุนเกาหลีเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คาดมูลค่าการลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ดังนั้น โอกาสของของแรงงานที่สามารถสื่อสารภาษาและเข้าใจวัฒนธรรมเกาหลีจึงมีมากขึ้น ทางมหาวิทยาลัยฯจึงเล็งเห็นความสำคัญในการเปิดการเรียนการสอนหลักสูตรภาษาเกาหลี เพื่อให้เด็กไทยได้เพิ่มทักษะด้านภาษา ซึ่งจะสอดคล้องกับความต้องการของเด็กรุ่นใหม่ที่ต้องการเรียนรู้ภาษาที่ 3 มากขึ้น
“ตั้งแต่มี EEC เกิดขึ้น นักลงทุนที่เข้ามา เมื่อก่อนเป็นชาวญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่นักธุรกิจจีนที่เข้ามาลงทุนในไทย ยังมีนักธุรกิจเกาหลีที่เข้ามาลงทุนในไทยไม่แพ้กัน ดังนั้น จึงมีความต้องการแรงงานที่สามารถสื่อสารและเข้าใจวัฒนธรรมเกาหลี มหาวิทยาลัยเล็งเห็นความสำคัญของการเปิดหลักสูตรภาษาเกาหลี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน และตอบโจทย์ความต้องการของเด็กรุ่นนี้ เพราะปัจจุบันมีเด็กที่ต้องการเรียนรู้ภาษามากกว่า 2 ภาษา มีจำนวนไม่น้อย และหนึ่งในนั้นก็ คือ ภาษาเกาหลีที่เป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้” ผศ.ดร.ศิริเดช กล่าว
ผศ.ดร.ศิริเดช กล่าวทิ้งท้ายว่า ก่อนจะเปิดสาขาภาษาเกาหลี มหาวิทยาลัยได้เตรียมความพร้อมผ่านการจัดให้มีหลักสูตรภาษาตะวันออก ได้มีการเพิ่มวิชาเอก ให้นักศึกษาเลือกเป็นภาษาที่ 3 คือ ภาษาญี่ปุ่น และ ภาษาเกาหลี โดยเปิดรับนักศึกษาประมาณเอกละ 100 คน สอนโดยอาจารย์คนไทยที่เรียนจบด้านภาษา และอาจารย์เจ้าของภาษาจากมหาวิทยาลัยที่ทำ MOU ด้วย ดังนั้น จึงเป็นหลักสูตรที่เราร่วมกันพัฒนา นักศึกษาจะได้ทั้งภาษาและวัฒนธรรม นอกจากนี้ เรายังมีแผนสร้าง Community ด้านภาษาต่าง ๆ เพื่อสร้างความกล้าด้านการสื่อสาร โดยวิชาเอกภาษาเกาหลี จะมีนักศึกษาเกาหลีแลกเปลี่ยนอยู่แล้วทุกปี และนักศึกษาที่เลือกเรียนเอกภาษาเกาหลี จะมีโอกาสได้ไป Summer Camp ที่ Keimyung University ประเทศเกาหลี อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่มีความร่วมมือทางวิชาการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นเวลา 1 สัปดาห์ (*ยกเว้น ค่าเดินทาง และ ค่าอาหาร) ซึ่งมหาวิทยาลัยที่เกาหลีจะเปิดรับทุกปี ๆ ละ 20 คน โดยการไปซัมเมอร์ในแต่ละปี นักศึกษาได้เพิ่มทักษะด้านภาษา และมีโอกาสได้ไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอีกด้วย