มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จับมือ IBM Thailand ทำ MOU ดำเนินโครงการ “Thammasat-IBM SkillsBuild” เปิดโอกาสให้ นศ. เพิ่มความรู้ – ทักษะจำเป็นด้านเทคโนโลยี ผ่านหลักสูตรออนไลน์ 4 กลุ่มวิชาหลัก ‘Data Science – AI – Security – Cloud’ จากบริษัทชั้นนำด้าน IT ระดับโลก
.
.
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการดำเนินโครงการ “Thammasat-IBM SkillsBuild” เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีได้รับองค์ความรู้แบบข้ามศาสตร์ พร้อมเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อโลกปัจจุบัน และการประกอบอาชีพในอนาคต โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับการลงนามดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายส่งเสริมการเรียนรู้แบบไร้ขีดจำกัด และไร้พรมแดนให้กับนักศึกษา ผ่านการเรียนรู้ในหลักสูตรออนไลน์ของบริษัทชั้นนำด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ระดับโลกอย่าง ไอบีเอ็มฯ (IBM E-learning Courses) ที่ประกอบไปด้วย 4 กลุ่มวิชาหลัก ได้แก่ Data Science, Artificial Intelligence (AI), Security และ Cloud
.
ศ.ดร.นพ.รัฐกร วิไลชนม์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ธรรมศาสตร์ เชื่อว่าการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจะเป็นองค์ความรู้ที่สำคัญให้นักศึกษาสามารถนำไปใช้ในการดำรงชีวิต และประกอบอาชีพได้อย่างมีคุณภาพในอนาคต อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดการพัฒนาขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวหน้าต่อไปได้ จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท ไอบีเอ็มฯ ในการจัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น ซึ่ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นแห่งแรกที่ทำเรื่อง Credit Bank กับ บริษัท ไอบีเอ็มฯ
.
โดยหลังจากมีการลงนามในบันทึกข้อตกลง เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567 แล้ว ทาง มธ. จะเปิดระบบให้นักศึกษาสามารถเรียนหลักสูตรดังกล่าวได้ทันที ผ่านทางเว็บไซต์ของธรรมศาสตร์ และเว็บไซต์ของไอบีเอ็ม ซึ่งในแต่ละกลุ่มวิชาจะแบ่งความรู้ออกเป็น 3 ระดับ เริ่มตั้งแต่ ความรู้ระดับพื้นฐาน ระดับปานกลาง และระดับสูง เมื่อศึกษาจบในแต่ละวิชาแล้ว นักศึกษาจะได้รับประกาศนียบัตร (E-Certification) และสามารถนำผลลัพธ์ที่ได้จากการเรียนรู้มาเทียบโอนหน่วยกิตจากการศึกษาครั้งนี้ได้ด้วย ซึ่งสามารถเลือกเรียนเป็นรายวิชาเลือกเสรีได้
.
ด้าน รศ.ดร.พิภพ อุดร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการความร่วมมือกับไอบีเอ็มในครั้งนี้ เพื่อให้นักศึกษาหรือนักเรียนในชั้นระดับมัธยมที่สนใจเข้ามาเรียน และสอบผ่านการประเมิน สามารถสะสมหน่วยกิตไว้ได้ เมื่อสมัครเข้ามาเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ ก็สามารถโอนหน่วยกิตที่สะสมไว้เข้ามาในหลักสูตรได้ สิ่งเหล่านี้เป็น Digital literacy ที่สำคัญ ถือว่าเป็น 1 ในทักษะที่คนจะประสบความสำเร็จได้ สถาบันการศึกษาต้องปรับตัวให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงในอนาคต และตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ในการช่วยพัฒนาคนให้กับประเทศ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยจะทำให้ธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัย World Class University for the People ที่เปิดกว้างให้กับประชาชน
.
.
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นสถาบันการศึกษาที่ให้ความสำคัญการเรียนการสอนนอกห้องเรียน ตลอดจนการเรียนรู้ที่ไม่ต้องอยู่ในมหาวิทยาลัยเท่านั้น และได้ร่วมกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ SkillLane สถาบันเศรษฐกิจดิจิทัล หรือล่าสุดกับทาง บริษัท ไอบีเอ็มฯ ในการจัดทำหลักสูตรออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางในการ Upskill-Reskill ให้กับทั้งนักศึกษาและประชาชนทั่วไป ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็เชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จในด้านนั้น ๆ อยู่แล้ว ทำให้องค์ความรู้ที่ได้สามารถนำไปใช้ได้จริง
.
นอกจากนี้ การเรียนการสอนในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยต้องไม่ได้มีหน้าที่ให้ความรู้แต่เพียงนักศึกษาเท่านั้น แต่ต้องเป็นพื้นที่การเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับคนทุกช่วงวัย ซึ่งหลักสูตร E-learning ที่ มธ. ได้ไปร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ สามารถเปิดให้คนทุกคนเข้าถึงได้ พร้อมระบบ Credit bank ที่สามารถเก็บหน่วยกิต เพื่อเทียบโอนได้ เมื่อเข้ามาเรียนใน มธ.
.
ขณะที่ รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเสริมว่า ภารกิจที่ มธ. ทำมาโดยตลอด วางอยู่บนพื้นฐานการทำให้ไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ในข้อที่ 4 เรื่องการสร้างหลักประกันให้ทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้วย ความร่วมมือในครั้งนี้ และการทลายกำแพงในการเข้าถึงความรู้นอกห้องเรียน จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับมหาวิทยาลัยในไทยและต่างประเทศ ตลอดจนช่วยให้การพัฒนาระบบการเรียนการสอนให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ทำให้การผลิตนักศึกษา ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศ มีประสิทธิภาพตอบโจทย์การทำงานในอนาคต ภายใต้การใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า