นักวิทยาศาสตร์ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ใช้รังสีอินฟราเรดจากแสงซินโครตรอน วิเคราะห์ “แจงสุรนารี” พรรณไม้ชนิดใหม่ของโลกที่ถูกค้นพบเมื่อปี 2564 เดินหน้าหาสารสำคัญเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ หนุนสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ “แจงสุรนารี” พรรณไม้เฉพาะถิ่นจังหวัดนครราชสีมา
ดร.กาญจนา ธรรมนู นักวิทยาศาสตร์ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันฯ ได้ร่วมกับ นายรุ่งเพชร ปัญญาวุฒิ รักษาการแทน หัวหน้าฝ่ายสำนักงานอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (อพ.สธ.มทส.) และ นักวิจัยของศูนย์ ศึกษาลักษณะกายวิภาคศาสตร์เมล็ด “แจงสุรนารี” และ “แจงสยาม” โดยใช้รังสีอินฟราเรดจากแสงซินโครตรอน เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์ จัดจำแนกความแตกต่างระหว่างชนิด และวิเคราะห์สารสำคัญเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และสร้างมูลค่า
ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.ดร.อมรรัตน์ โมฬี ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า การค้นพบ “แจงสุรนารี” เกิดจากทีมสำรวจ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เก็บตัวอย่างและสำรวจในพื้นที่ อ.สีคิ้ว และ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยเมื่อปี 2564 ดร.ปรัชญา ศรีสง่า นักพฤกษศาสตร์ จาก องค์การสวนพฤกษศาสตร์ และ รศ.ดร.สันติ วัฒฐานะ นักพฤกษศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ อพ.สธ.มทส. ตรวจสอบชื่อพฤกษศาสตร์ที่ถูกต้อง พบว่า เป็นพืชชนิดใหม่ของโลก และตั้งชื่อทางพฤษศาสตร์ว่า Maerea koratensis Srisanga & Watthana และ ตั้งชื่อไทยว่า “แจงสุรนารี” ที่มาของชื่อ มาจากชื่อระบุชนิด “koratensis” คือ โคราช หมายถึง จังหวัดแหล่งที่พบ และพบเฉพาะจังหวัดนครราชสีมาเท่านั้น โดยชื่อไทยตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ท้าวสุรนารี และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
นอกจากนี้ ดร.กาญจนา ธรรมนู กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้นแจงเป็นสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์ และสรรพคุณของต้นแจง เช่น ลดไข้, แก้วิงเวียน, แก้ปวดเมื่อย ซึ่งทีมวิจัยได้พิสูจน์ความเป็นเอกลักษณ์ของเมล็ดแจงสุรนารี โดยใช้เทคนิค SR IR microspectroscopy เปรียบเทียบเมล็ดแจงสุรนารี กับ เมล็ดแจงสยาม ที่เก็บตัวอย่างจากในพื้นที่ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ผลการวิเคราะห์ พบว่า เมล็ดแจงสุรนารี นั้น มีปริมาณไขมันที่สูงกว่าเมล็ดแจงสยาม ขณะที่ เมล็ดแจงสยาม มีปริมาณโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตสูงกว่า ข้อมูลเบื้องต้นนี้เป็นองค์ความรู้ใหม่ที่จะนำไปสู่การศึกษาเชิงลึก เช่น การหาปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ การหาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ เพื่อพัฒนาเป็นเวชภัณฑ์ หรือ เวชสำอาง เป็นต้น เพื่อยกระดับและพัฒนาพืชสมุนไพรของไทยให้มีมูลค่าเพิ่มสูงต่อไป