คุรุสภา ประกาศคัดเลือกรางวัลครูผู้สอนดีเด่น ประจำปี 2567 จำนวน 14 ประเภท/กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมจำนวนไม่เกิน 28 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและยกย่องเชิดชูเกียรติครูผู้สอนดีเด่นให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ครูทั่วไป สร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง สร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานแก่ครูผู้สอนดีเด่นให้เกิดการพัฒนาตนเองและมีคุณภาพในการจัดการเรียนรู้ ส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน และเปิดโอกาสให้ผู้ได้รับรางวัลได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ทางวิชาชีพ
รางวัลและจำนวนรางวัลที่จะได้รับ ผู้ประกอบวิชาชีพครูที่ได้รับการคัดเลือกรับรางวัลครูผู้สอนดีเด่น จำนวนไม่เกิน 28 คน (ประเภทละไม่เกิน 2 คน) แบ่งเป็น 2 ระดับ ดังนี้
1. ระดับดีเด่น (จำนวน 14 ประเภท/กลุ่มสาระการเรียนรู้ละไม่เกิน 1 คน) รางวัลที่ได้รับ ประกอบด้วย โล่ประกาศเกียรติคุณ เข็มเชิดชูเกียรติ และเกียรติบัตร
2. ระดับดี รางวัลที่ได้รับ ประกอบด้วย เข็มเชิดชูเกียรติ และเกียรติบัตร
รางวัลครูผู้สอนดีเด่น ประจำปี 2567 แบ่งออกเป็น 14 ประเภท/กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่
1. ครูผู้สอนปฐมวัยดีเด่น
2. ครูผู้สอนประถมศึกษาดีเด่น
3. ครูผู้สอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนดีเด่น
4. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยดีเด่น
5. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ดีเด่น
6. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดีเด่น
7. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมดีเด่น
8. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาดีเด่น
9. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะดีเด่น
10. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพดีเด่น
11. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศดีเด่น (ภาษาอังกฤษ)
12. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศดีเด่น (ภาษาจีน)
13. ครูผู้สอนการศึกษาพิเศษหรือการศึกษาพิเศษกรณีเรียนร่วมดีเด่น
14. ครูผู้สอนอาชีวศึกษาระดับ ปวช. ดีเด่น (วิชาสามัญและวิชาชีพ)
*หมายเหตุ หน่วยงานทางการศึกษาใดเรียกประเภท/กลุ่มสาระการเรียนรู้ ในการจัดการเรียนการสอนแตกต่างกันออกไป หากสอนในเนื้อหาวิชาลักษณะเดียวกัน ให้ถือเป็นประเภทเดียวกัน
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับรางวัล
– ต้องเป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาที่จัดการศึกษาปฐมวัย หรือ ขั้นพื้นฐาน หรือ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ทั้งภาครัฐและเอกชน อย่างต่อเนื่องรวมระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี (นับถึงวันที่ออกประกาศนี้)
– มีประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้ในแต่ละประเภทที่เสนอผลงานไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันออกประกาศ
– เป็นผู้ปฏิบัติงานและปฏิบัติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ ไม่เคยมีประวัติการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ หรือ มีพฤติกรรมเสื่อมเสียต่อวิชาชีพ หรือ อยู่ในระหว่างการดำเนินการทางคดี หรือ การสอบสวนทางวินัยใด ๆ
– เป็นผู้มีความประพฤติในการครองตน ครองคน ครองงาน เป็นแบบอย่างที่ดี และเป็นที่ยอมรับของบุคคลในวิชาชีพและสังคม
– ไม่เคยได้รับรางวัลครูผู้สอนดีเด่นในระดับประเทศที่เสนอขอมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 ปี
เกณฑ์การพิจารณา แบ่งเป็น 2 ด้าน ดังนี้
1. ด้านการจัดการเรียนรู้
2. ด้านนวัตกรรม โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณา/ตัวบ่งชี้ การคัดเลือกรางวัลคุรุสภาครูผู้สอนดีเด่นของแต่ละประเภท/กลุ่มสาระการเรียนรู้ ตามที่คุรุสภากำหนด
การเสนอผลงานหรือเสนอชื่อขอรับรางวัล มี 2 วิธี คือ เสนอผลงานด้วยตนเอง หรือ ได้รับการเสนอชื่อจากบุคคลอื่น หรือ องค์กร หน่วยงานทางการศึกษา สถานศึกษา สมาคม มูลนิธิ ชมรม โดยเสนอผลงานให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นรับรอง ซึ่งสามารถลงนามรับรองการเสนอได้มากกว่าหนึ่งคนตามจำนวนที่เสนอขอได้ และผู้เสนอผลงานด้วยตนเองแล้ว ต้องไม่ให้บุคคอื่นเสนอผลงานซ้ำอีก
ทั้งนี้ ผู้เสนอผลงานหรือได้รับการเสนอชื่อ จัดทำแบบรายงานประวัติ และผลงานนวัตกรรม ตามที่คุรุสภากำหนด และส่งผลงานเพื่อพิจารณาคัดเลือกไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2567
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จะประกาศผลการคัดเลือก ภายในเดือนธันวาคม 2567 คำวินิจฉัยของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพถือเป็นที่สุด และกำหนดมอบรางวัลในงานวันครู ครั้งที่ 69 พ.ศ. 2568 หรือ ตามความเหมาะสม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์คุรุสภา www.ksp.or.th หรือ สอบถามข้อมูลได้ที่ สำนักพัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพ กลุ่มยกย่องและผดุงเกียรติวิชาชีพ โทร. 02-281-4843
อ้างอิงจาก https://shorturl.asia/azyEi