เปิดเทอมใหม่ปีนี้ มีเด็กและเยาวชนไทยจำนวนไม่น้อยหมดโอกาสกลับเข้าห้องเรียนเหมือนคนอื่น ๆ และต้องหลุดออกจากระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัญหาของระบบการศึกษาไทยที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีเด็กและเยาวชนที่ไม่พบข้อมูลในระบบการศึกษา ตั้งแต่ ชั้นอนุบาล – มัธยมศึกษาปีที่ 6 สูงสุดถึง 1.02 ล้านคน จึงได้มีการดำเนินมาตรการขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ Thailand Zero Dropout ติดตามนำเด็กที่ต้องเลิกเรียนกลางคันกลับเข้าสู่การศึกษายืดหยุ่น พร้อมตั้งเป้าว่า ประเทศไทยจะต้องบรรลุเป้าหมาย Zero Dropout ภายในปี 2570
เคเอฟซี ประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญของเป้าหมาย “Zero Dropout” จึงร่วมกับ กสศ. และ ศูนย์การเรียนปัญญากัลป์ เดินหน้าสานต่อโครงการ KFC Bucket Search เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา โดยมอบโอกาสให้เด็กได้เลือกการเรียนที่เหมาะสมกับตนเองแบบยืดหยุ่น ทั้งด้านเวลาและวิชาเรียน ผ่านทางเลือก Work & Study หรือ หลักสูตรวิชาชีพที่ตอบสนองความต้องการของแต่ละคน ช่วยให้พวกเขาสำเร็จการศึกษา และพึ่งพาตนเองได้
พร้อมเปิดตัวห้องเรียนเคเอฟซี และสร้างหลักสูตรนอกกรอบ หรือ “หลักสูตรทักษะอาชีพและการเป็นผู้ประกอบการ” โดยเป็นการนำร่องการศึกษายืดหยุ่น ที่เด็กสามารถเรียนรู้ผ่านการทำงานและเรียนไปพร้อมกัน เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงในการทำงานกับเคเอฟซี รวมถึงได้รับการถ่ายทอดความรู้ด้านการเป็นผู้ประกอบการ ตั้งแต่งานหลังร้านไปจนถึงงานบริการ ตัวอย่างวิชาเรียน เช่น ด้วยใจรักนักบริการ ที่จะเรียนรู้เรื่องของงานบริการในร้านอาหาร รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยต่าง ๆ หรือ วิชาจักรวาลภาษาในโลกธุรกิจ เพื่อให้สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษเบื้องต้นในการทำงานได้ และที่พิเศษอีกวิชาของเคเอฟซี คือ ตัวตึงวงการอาหาร และปรมาจารย์ด้านการครัว ที่จะทำให้เข้าใจมาตรฐานการทำสินค้าให้อร่อย ถูกสุขลักษณะในทุกคำ
นายเศกไชย ชูหมื่นไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และ ประธานมูลนิธิเคเอฟซี กล่าวว่า เปิดเทอมนี้ เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เคเอฟซี จึงริเริ่มหลักสูตร KFC ทักษะอาชีพและการเป็นผู้ประกอบการ โดยเป็นเอกชนแบรนด์แรกในการนำร่องการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น และมีเด็กเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อมอบโอกาสให้เด็กได้เลือกเรียนตามความสนใจและความเหมาะสมของตัวเด็กเอง
โครงการ KFC Bucket Search จะสร้างประโยชน์อย่างยิ่งต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ที่ต้องการแรงงานที่มีทักษะจำเป็นเหมาะสมกับการทำงานในตลาดงานยุคปัจจุบันและอนาคต ด้วยหลักสูตรที่มีความยืดหยุ่นและเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการทำงานจริง พร้อมทั้งได้รับความรู้ด้านการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในปัจจุบันและอนาคต โครงการนี้สามารถพัฒนาต่อยอดเป็นต้นแบบให้ภาคเอกชนอื่น ๆ ที่มีวิสัยทัศน์คล้ายคลึงกัน สามารถเข้ามาร่วมแก้ปัญหาเด็กนอกระบบการศึกษาด้วยกันได้ ทั้งนี้ ได้วางเป้าหมายที่จะขยายผลโครงการเพื่อมอบโอกาสให้เด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาในพื้นที่ 40 จังหวัดทั่วไทย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ช่วยให้เด็ก ๆ ได้นำความรู้และประสบการณ์ไปพัฒนาต่อยอดอาชีพการงาน สร้างรายได้เลี้ยงชีพตนเองและครอบครัว รวมทั้งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ด้าน ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การส่งเสริมให้ภาคเอกชนร่วมจัดการศึกษาควบคู่กับการทำงานให้แก่เด็กนอกระบบ เป็นหนึ่งในมาตรการหลักของ Thailand Zero Dropout เนื่องจากภาคเอกชนมีความสามารถที่เข้มแข็งกว่าภาครัฐ ในการเชื่อมโยงระหว่างโลกของการศึกษากับโลกของการทำงาน จากการวิจัยสำรวจของ กสศ. ในกลุ่มเด็กนอกระบบ 35,003 คน ทั่วประเทศ พบว่า เด็กประมาณร้อยละ 50 มีความต้องการได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพ และสนับสนุนการประกอบอาชีพที่โดดเด่นขึ้นมา แสดงถึงแรงจูงใจภายในที่เห็นความสำคัญของการประกอบอาชีพมากกว่ามุ่งเป้าหมายไปที่การได้รับการศึกษา แต่ไม่ตอบโจทย์ชีวิต ดังนั้น หลักสูตรการศึกษาใหม่ที่ KFC ได้ร่วมพัฒนาขึ้น จึงถือเป็นนวัตกรรมการศึกษาที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ชีวิตที่เป็นรูปธรรม ทำให้ทุกคนที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ สามารถเป็นครู เป็นผู้สร้างการเรียนรู้ และช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบได้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ และสามารถพึ่งพาตนเองได้
ในช่วงเริ่มต้นดำเนินโครงการ KFC Bucket Search ปี 2566 มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการจำนวน 130 คน ที่ได้มีโอกาสกลับเข้าสู่สังคม โดยมีทางเลือกที่เริ่มจากตัวเยาวชน ซึ่งช่วยให้เยาวชนสามารถเข้าเรียนตามเงื่อนไขชีวิต และที่สำคัญสามารถเรียนตามความสนใจและถนัดของตนเองได้
ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง กสศ. และ เคเอฟซี ได้ตั้งเป้ายกระดับชีวิตของเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาจำนวน 300 คน ภายในปี 2567 ผ่านการจุดประกายความหวังด้านการศึกษา และเปิดประตูสู่อาชีพที่ดีในอนาคต ภายใต้แนวคิดที่ว่า “ทุกศักยภาพไม่ควรถูกทอดทิ้ง” ติดตามกิจกรรมนี้ ได้ที่แฮชแท็ก #KFC #KFCBucketsearch #KFCThailand #ThailandZeroDropout #กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา