เรียน “บริหารธุรกิจ” วิทยาลัยนานาชาติจีน ม.รังสิต หลักสูตร 2 ปริญญา ปั้นบัณฑิตคุณภาพรองรับการขยายตัวเศรษฐกิจจีน

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

โครงการ 1+2+1 วิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยรังสิต หลักสูตรนานาชาติ ด้านการเรียนรู้บริหารธุรกิจ ที่นักศึกษาไทยจะเรียน 1 สายวิชาชีพ นั่นคือ ด้านบริหารธุรกิจ แต่ได้ถึง 2 นักศึกษาจะได้ใช้ภาษาจีนในการเรียน และสามารถสร้างคอนเนคชั่นกับเพื่อนชาวจีนในคลาสเรียนเพิ่มเติมอีกด้วย นับเป็นการเพิ่มพูนศักยภาพในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันด้านการบริหารจัดการธุรกิจ มุมมองการเรียนรู้เกี่ยวกับการตลาด และเศรษฐกิจของประเทศจีนที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

NYEIN YIN HTWE (Michelle) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเอกชนในประเทศพม่า และตัดสินใจเลือกเรียนที่วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต เพราะอยากเก่งด้านการบริหารธุรกิจ และมีแพลนอยากไปเรียนต่อที่ประเทศจีน

“รู้จักกับรุ่นพี่ที่เรียนที่ ม.รังสิต ค่ะ เขาแนะนำหลักสูตรอินเตอร์บริหารธุรกิจให้ได้รู้จัก มิเชลเองมีความชื่นชอบภาษาจีน จึงคิดว่าหลักสูตรที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด จึงเป็นที่นี่ ICC ม.รังสิต กับโครงการ 1+2+1 ค่ะ แน่นอนว่า ฉันจะได้ไปเรียนถึง 2 ประเทศ ทั้งประเทศไทยและจีนค่ะ เพราะโครงการ 1+2+1 หมายถึงว่า ปีแรกเรียนวิชาพื้นฐานที่มหาวิทยาลัยรังสิต ปี 2 – 3 เรียนวิชาชีพที่มหาวิทยาลัยเฉิงตู และปีสุดท้ายปีที่ 4 เรียนวิชาชีพ ฝึกงานและทำวิทยานิพนธ์”

สำหรับมิเชลเอง ได้มีการเตรียมตัว ตั้งใจเรียน และเข้าร่วมกิจกรรมของวิทยาลัยอย่างสม่ำเสมอ เปรียบเสมือนเป็นการเก็บชั่วโมงบินด้านภาษา และสร้างความคุ้นเคยกับเพื่อนคนจีน เพื่อจะได้ปรับตัวได้ เมื่อต้องไปเรียนที่จีนในปีนี้ค่ะ การเตรียมตัวด้านอื่น ๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องก่อนออกเดินทาง เราต้องยื่นขอวีซ่า เตรียมสัมภาระตามสภาพอากาศของเมืองที่เราจะไปเรียน จัดเตรียมที่พัก และเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของจีนล่วงหน้า การพำนักระยะยาวในประเทศจีน (สองปี) จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตท้องถิ่นและสภาพแวดล้อมทางสังคม ในปีนี้เราได้เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และการบรรยายเรื่องกฎหมายไทย ซึ่งจัด โดย ICC กิจกรรมเหล่านี้ได้ส่งเสริมความเข้าใจข้ามวัฒนธรรม และทักษะการทำงานเป็นทีม มิเชล เชื่อว่า โปรแกรมนี้จะมอบประสบการณ์การเรียนรู้ระดับนานาชาติที่หลากหลาย และโอกาสเชิงปฏิบัติให้กับเรา และตั้งตารอที่จะพัฒนาทักษะทางวิชาชีพ และความสามารถในการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมผ่านโอกาสเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาในอนาคต

ด้าน นางสาวอภิชญา คนบุญ (เมเจอร์) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนเรียนเกี่ยวกับสายวิทย์ – คณิต จบจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยพะเยา แต่ชื่นชอบเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมจีน ประกอบกับที่บ้านของตนทำธุรกิจอยู่ด้วย จึงวางแผนจะเรียนเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับการต่อยอดทั้งด้านภาษาของตนเอง และธุรกิจของครอบครัว

“เลือกเรียนโครงการ 1+2+1 นี้ เพราะที่บ้านเป็นห่วงค่ะ ถ้าไปอยู่จีนตั้งแต่ชั้นปี 1 เลย ทุกคนก็จะกังวลกลัวหนูอยู่คนเดียวไม่ได้ค่ะ โครงการนี้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องวิชาชีพ ความชอบ และเมื่อต้องไปเรียนต่างประเทศ หากเรามีเพื่อนไปด้วย ก็น่าจะเป็นการเริ่มต้นอะไรหลาย ๆ อย่างได้ดีกว่าการไปงมเข็มที่ต่างประเทศคนเดียว ที่สำคัญที่วิทยาลัยจะมีการปรับพื้นด้านภาษาจีนให้กับนักศึกษาไทยก่อนด้วย เมื่อได้เรียนปรับพื้น ได้ใช้ภาษาจีนสื่อสารกับเพื่อน ๆ ในชีวิตประจำวันที่มหาวิทยาลัย 1 ปีต่อจากนี้ ภาษาของเราต้องดีขึ้นแน่ ๆ ค่ะ แต่ละวันฟังภาษาจีนเยอะมาก ๆ เพราะเพื่อนที่ต้องทำโปรเจกต์ด้วยกันก็คนจีน วิชาเรียนก็ต้องเรียนกับอาจารย์คนจีนด้วย ดีมาก ๆ ค่ะ เรียกได้ว่า เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนจะไปเรียนต่ออีก 2 ปี ที่มหาวิทยาลัยเฉิงตู นี่คือข้อดีของการเรียนรวมทั้งเด็กไทยและเด็กจีนค่ะ ภาษาก็ได้ใช้ ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน เมื่อเราต้องไปเรียนต่อที่จีนในชั้นปีที่ 2 และ 3 จะได้โฟกัสเรื่องการปรับตัวเกี่ยวกับวิชาเรียนได้เต็มที่ค่ะ สำหรับเรื่องอื่น ๆ ก็จะไม่น่ากลัวอีกต่อไป เพราะเราสื่อสารภาษาได้แล้ว เรียนตำราภาษาจีนก็อ่านได้เยอะแล้ว อยากให้ถึงปีหน้าเร็ว ๆ แล้วค่ะ”

ทางด้าน นางสาวอรทัย จัดสร้าง (โม) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า โมจบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนสตรีอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง สายวิชาศิลป์ภาษาอังกฤษ (IEP) ตัดสินใจเลือกศึกษาต่อด้านบริหารธุรกิจ หลักสูตรนานาชาติจีน เพราะมีความสนใจด้านการบริหารธุรกิจอยู่แล้ว แต่ก็อยากเรียนภาษาจีนควบคู่ไปด้วยเลยตัดสินใจเข้าคณะนี้ค่ะ ที่เลือกเป็น ม.รังสิต เพราะว่าที่นี่มีโครงการ 1+2+1

“โมเห็นการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการนี้ จึงเริ่มหาข้อมูล รายละเอียดค่อนข้างน่าสนใจมาก ๆ ค่ะ เราได้จะเรียนทั้ง 2 ที่ ตามชื่อโครงการเลยค่ะ เรียนที่ ม.รังสิต 2 ปี ชั้นปีที่หนึ่ง และชั้นปีที่สี่ ตอนปี 2 และ ปี 3 จะได้ไปเรียนที่จีนค่ะ จบมาก็รับปริญญา 2 ใบ และใช่ค่ะตอนนี้ก็ผ่านปีแรกมาเรียบร้อยแล้ว ได้เรียนพื้นฐานภาษาจีน เป็นวิชาภาษาจีนเชิงธุรกิจ และก็มีลงเรียนวิชาเอกบ้างแล้วค่ะ จะเป็นวิชาการตลาด วิชาบัญชี การบริหารจัดการต่าง ๆ และก็ต้องเตรียมตัวไปลงเรียนที่จีนด้วยค่ะ หลังจากนี้ ต้องเรียนไปด้วยและก็เตรียมตัวเดินทางไปเรียนด้วย ตอนนี้จะมีเรื่องการยื่นขอวีซ่า และการเตรียมตัวเรื่องของภาษา เพราะว่าเราไม่ได้เรียนจบสายจีนมาโดยตรง ทำให้เราต้องเตรียมตัวหนักกว่าคนอื่น ๆ และก็คอยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียน หรือ การใช้ชีวิตที่จีนกับเพื่อนคนจีนในคณะด้วยค่ะ ประสบการณ์พวกนี้จะทำให้เรารู้ว่าเราต้องเตรียมตัวยังไงเมื่อไปอยู่ที่จีน เราจะต้องเจอกับอะไร คนจีนเขาจะเรียนกันประมาณไหน ถึงตอนนี้เราอาจจะไม่ได้เข้าใจวัฒนธรรมทั้งหมดของคนจีน แต่สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เรามีความพร้อมในการรับมือกับทุก ๆ สถานการณ์ค่ะ”

RANDOM

จุฬาฯ ชวนวิ่งการกุศลเนื่องในโอกาส 107 ปี แห่งการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “CHULA 107 CHULA RUN 2024” สมทบทุนจัดซื้อเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) 107 เครื่อง ลงทะเบียนร่วมวิ่งฟรี ตั้งแต่บัดนี้ – 10 มี.ค. 67

ม.เกษตรฯ รับสมัครงาน “เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปปฏิบัติการ – ช่างเทคนิค” เปิดรับสมัครถึง 31 ต.ค. 66 สำหรับตำแหน่ง ช่างเทคนิค และ เปิดรับสมัครถึง 17 พ.ย. 66 สำหรับตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปปฏิบัติการ

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!