หลังจากที่โลกเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) ในช่วงรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบมายังประเทศไทย ทำให้เกิดสภาพอากาศร้อน และเกิดภาวะแห้งแล้ง แต่รู้หรือไม่ว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญ กำลังอ่อนตัวลง และ ปรากฏการณ์ลานีญา (La Niña) กำลังจะเกิดขึ้นมาแทนที่
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization) ทำนายว่า มีโอกาสสูงถึง 60 % ที่ปรากฏการณ์ลานีญาจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนของปี 2024 นี้ โดยปกติแล้วปรากฏการณ์เอลนีโญ หรือ ลานีญา จะเกิดขึ้นยาวนานประมาณ 9-12 เดือน ซึ่งโดยเฉลี่ยจะเกิดขึ้นทุก ๆ 2-7 ปี และ เอลนีโญ จะเกิดขึ้นบ่อยกว่า ลานีญา และโดยทั่วไป เมื่อเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังแรงดังเช่นเอลนีโญที่ผ่านมา ก็มักจะเกิดปราฏการณ์ลานีญาตามมา
ปรากฏการณ์ลานีญา เกิดจากการที่ลมค้ามีกำลังแรงขึ้นมากกว่าปกติ ซึ่งโดยทั่วไปลมค้าดังกล่าว จะพัดปกคลุมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตร โดยจะพัดพาผิวน้ำทะเลที่อุ่นจากมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก (แถบชายฝั่งประเทศเอกวาดอร์ เปรู) ไปสะสมอยู่ทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก (แถบชายฝั่งประเทศออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
ทำให้ในช่วงที่เกิดลานีญา บริเวณตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก จะมีปริมาณเมฆและฝนตกหนักมากขึ้น อาจถึงขั้นเกิดน้ำท่วม หรือ แผ่นดินถล่มได้ในบางพื้นที่ ในทางกลับกัน บริเวณตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก จะเกิดภาวะแห้งแล้ง และมีฝนตกน้อย บางพื้นที่อาจเกิดภัยพิบัติอื่นร่วมด้วย
ปรากฏการณ์ลานีญา ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบแก่พื้นที่รอบมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรเท่านั้น ยังส่งผลต่อพื้นที่ที่อยู่ไกลออกไปด้วย เช่น ภาวะแห้งแล้งบริเวณตอนใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ ฝนตกหนักและน้ำท่วมในประเทศแคนาดา นอกจากนั้น มีการรายงานว่า ลานีญาส่งผลให้เกิดเฮอริเคนกำลังแรงกว่าปกติด้วย
สำหรับประเทศไทยแล้ว ลานีญา จะส่งผลให้มีฝนชุกกว่าปกติ และอุณหภูมิอากาศโดยเฉลี่ยต่ำกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของ ลานีญา อาจจะมีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับกำลังของ ลานีญา ความยาวนาน ช่วงเวลาที่เกิด รวมถึงปัจจัยทางอากาศอื่น ๆ ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก สสวท.