“วิทยาการวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐศาสตร์และธุรกิจ” หลักสูตรใหม่ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.หอการค้าไทย พร้อมปั้นเด็กเจน Z สู่ภาคธุรกิจ ก้าวสู่ผู้นำเศรษฐกิจยุคเอไอ

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

ในสังคมยุคดิจิทัลทุกวันนี้ นวัตกรรม เทคโนโลยี พัฒนาล้ำหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งและรวดเร็ว “ข้อมูล” ได้กลายเป็นทรัพยากรที่มีราคา และมีมูลค่า ผู้ที่สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ในยุคเอไอ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พยากรณ์และคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างชาญฉลาด ย่อมได้เปรียบในโลกแห่งการแข่งขัน สามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจ และสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างแม่นยำ การพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์ ตีความ และประยุกต์ใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล จึงกลายเป็นความจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจแบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ จำเป็นสำหรับผู้นำที่ต้องตัดสินใจดำเนินนโยบายได้อย่างแม่นยำตรงเป้าหมาย

รองศาสตราจารย์ ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ เป็นผู้ที่มีองค์ความรู้และประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์หลากหลายสาขา มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้บริหารสถาบันองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน สถาบันการเงิน และสถาบันการลงทุนหลากหลายแห่ง สามารถนำองค์ความรู้และประสบการณ์ถ่ายทอดสู่ผู้เรียนได้ถึงแก่นแท้ของหลักสูตรใหม่ “วิทยาการวิเคราะห์ข้อมูลชั้นสูงทางด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจและการลงทุน” นอกจากนี้ ทีมคณาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ ยังพร้อมผลักดันผลงานทางวิชาการต่าง ๆ ผ่าน “ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ” 

“ผมคิดว่าการศึกษาที่ดี มีคุณภาพ จะเปิดประตูแห่งโอกาสในการพัฒนาชีวิตของทุกคน ทำให้เจริญก้าวหน้า มีความหมาย มีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี ในแง่สังคมโดยรวม หลักสูตร การเรียนการสอนที่ดี จะช่วยพัฒนาภูมิปัญญาให้ “นักศึกษา” ในการประกอบอาชีพ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพียบพร้อมในการเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศและของโลก พลเมืองคนรุ่นใหม่เหล่านี้ จะเป็นทางออกของประเทศ และทางรอดของมวลมนุษยชาติ เราต้องการนักเศรษฐศาสตร์เก่ง ๆ เราต้องการนักเศรษฐศาสตร์ที่คิดถึงประโยชน์สาธารณะ เราต้องการนักคิด นักสร้างสรรค์ ปัญญาชน เราวางเป้าให้คณะเศรษฐศาสตร์ เป็นสำนักคิดอันทรงพลังในการเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคมที่ดีกว่าเดิม ประเทศที่น่าอยู่กว่าเดิม

รองศาสตราจารย์ ดร.อนุสรณ์ กล่าวต่อว่า การศึกษาเป็นการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ที่ประเมินค่าไม่ได้จริง ๆ ผมรักการเป็นครู เพราะไม่ใช่แค่ให้วิชาความรู้ เราต้องให้วิธีคิด ภูมิปัญญา ให้ “แรงบันดาลใจ” ได้ ช่วยปั้น “เด็ก ๆ” ลูก ๆ ของเราให้มีอนาคตที่สดใส มีความรู้ ประสบการณ์ที่ทำให้ชีวิตของนักศึกษาดีขึ้นในทุก ๆ วัน การฝึกอบรมเรียนรู้ให้ ‘เยาวชน’ อนาคตของสังคม เป็นพลเมืองดี เป็นบัณฑิตที่มีความรู้ มีประสบการณ์และทำงานเป็น เป็นภารกิจและงานที่มีคุณค่า เป็น Decent Work

Joseph Schumpeter อาจารย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พูดถึงนวัตกรรมการจัดการ ในปี 1930s โดยเริ่มศึกษาถึงกระบวนที่ระบบทุนได้รับผลกระทบจากนวัตกรรม หนังสือ ของ Schumpeter “Capitalism, Socialism and Democracy” อธิบายกระบวนการดังกล่าว โดยกล่าวว่า ผู้ประกอบการต่างก็หาทางใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตสินค้า บริการ หรือนวัตกรรมที่เป็นสินค้าใหม่ เพื่อสร้างประโยชน์เชิงธุรกิจให้กับองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากนวัตกรรมนั้นสามารถทำให้องค์กรมีกำไรจากการเป็นผู้ผูกขาด (Monopoly profit) ได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ก็ยังมีนักลงทุนบางคนที่พยายามจะลอกเลียนแบบเทคโนโลยีของผู้อื่น หรือ ดัดแปลงพัฒนาต่อยอดเพื่อทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ตลอดเวลาเช่นกัน เกิดเป็นวงจรเช่นนี้เรื่อยไป จนกระทั่งถึงจุดที่ความสามารถในการผูกขาดหมดไป ณ จุดนี้สิ่งต่าง ๆ จะวนกลับมาเป็นวัฏจักร เพื่อหนีการลอกเลียนแบบผู้ประกอบการเดิม หรือ คนที่มองหานวัตกรรมใหม่ ๆ จะทำให้เกิดรูปแบบการแข่งขันใหม่ ๆ จากการคิดค้นนวัตกรรมต่าง ๆ Schumpeter เรียกว่า เป็นการทำลายที่สร้างสรรค์ (Creative Destruction) เมื่อมีการคิดสิ่งใหม่ ๆ ทำลายสิ่งที่มีอยู่เดิม และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ โอกาสใหม่ รวมทั้งโอกาสทางธุรกิจและเศรษฐกิจ

ย้อนกลับไป ตั้งแต่ สมัยพระยาสุริยานุวัตร (เกิด บุนนาค) เป็นผู้เรียบเรียง และพิมพ์ตำราเศรษฐศาสตร์เล่มแรกของไทย ชื่อ “ทรัพย์ศาสตร์” แก่นความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ที่ยังสามารถประยุกต์ได้มาทุกยุคทุกสมัยจนถึงปัจจุบัน ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ยุคเอไอ

เศรษฐศาสตร์นั้น ก็เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เกี่ยวข้องกับทุก ๆ การทำงาน ทุก ๆ กิจกรรม เรารู้แต่เราอาจไม่ใส่ใจจริงจัง เราทุกคนเป็นทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภค เศรษฐศาสตร์จะเป็นวิชาที่ช่วยเราในกระบวนการตัดสินใจเลือกทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่าที่สุด ทั้งในการผลิต การบริโภค และการแลกเปลี่ยน หรือ แม้แต่ในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยุคปัจจุบัน ที่มีการแข่งขันสูง ระบบเศรษฐกิจของแต่ละประเทศทั่วโลกต่างเชื่อมโยงถึงกัน คนที่มีความรู้เชิงลึกในด้านเศรษฐศาสตร์ จึงเป็นที่ต้องการตัวขององค์กรต่าง ๆ อย่างมาก เพื่อวิเคราะห์และวิจัยเกี่ยวกับสภาวะตลาด ข้อมูลเชิงลึก และการวางแผนดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ให้ประสบผลสำเร็จได้

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) ตระหนักถึงการสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นคนดี คนเก่ง และมีคุณภาพแก่สังคม สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ทำความฝันให้เป็นจริง และประสบความสำเร็จในสายอาชีพ ตามแนวคิด Dreams Come True โดยเฉพาะการเปิดหลักสูตรใหม่ “วิทยาการวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐศาสตร์และธุรกิจ” หรือ Data Analytics in Economics and Business นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ ของ คณะเศรษฐศาสตร์ จะเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน และสถานที่ฝึกงานของนักศึกษาอีกด้วย หลักสูตร Data Analytics ออกแบบให้ผู้เรียนได้ความรู้ พัฒนาทักษะวิเคราะห์ และการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึก ตั้งแต่พื้นฐานของกระบวนการได้มาซึ่งข้อมูล การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ไปจนถึงเทคนิคการวิเคราะห์ขั้นสูง การใช้เครื่องมือ หรือ โปรแกรมที่จำเป็นและทันสมัย เช่น Python, R, STATA, Power BI, Tableau และการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการฝึกปฏิบัติจริงในวิธีการใช้ข้อมูลทั้งในระดับจุลภาค และมหภาค สามารถเชื่อมโยงทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์เพื่ออธิบายข้อมูลได้ โดยมีเป้าหมายให้ผู้เรียนสามารถดึงคุณค่าของข้อมูลออกมาใช้ให้ได้มากที่สุด และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริงในโลกเศรษฐกิจดิจิทัล ที่สร้างพลังการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลักสูตรใหม่ Data Analytics นี้ ยังให้ความสำคัญในเรื่องการใช้ข้อมูลอย่างมีจริยธรรม และรับผิดชอบอีกด้วย โดยผู้เรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูล รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีในการรักษาความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของข้อมูล และความสำคัญของการตรวจสอบความเป็นอคติของข้อมูล ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม

นอกจากนี้ หลักสูตรยังมีการนำทักษะทางด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ การสร้างแบบจำลองการพยากรณ์ที่ซับซ้อนและแม่นยำ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การใช้เทคนิค Machine Learning เพื่อทำนายแนวโน้มตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค และตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เพื่อเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีทักษะด้านธุรกิจ เชี่ยวชาญกลยุทธ์การจัดการ และรับผิดชอบต่อสังคม และยังได้เรียนเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม เศรษฐศาสตร์การท่องเที่ยวและบริการ เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐศาสตร์โลจิสติกส์ เศรษฐศาสตร์เพื่อความยั่งยืน การบริหารเงินทุนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการวิเคราะห์หลักทรัพย์ นวัตกรรมทางการเงิน การบริหารความเสี่ยงทางการเงิน การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจ การสร้างคุณค่าทางธุรกิจ การจัดการธุรกิจเชิงนวัตกรรม การจัดการความเสี่ยงองค์กร การจัดการทุนมนุษย์ เป็นต้น ทำให้มีทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในตลาดแรงงานยุคดิจิทัลปัจจุบัน นับเป็นการเพิ่มโอกาสใหม่ และติดอาวุธทักษะความรู้ สร้างคนให้มีอนาคตสดใส มีรายได้มั่นคง และมีความสุขแก่ผู้เรียนเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นสำคัญ

โดย รองศาสตราจารย์ ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ หรือ “ดร.นุ” คณบดีคนใหม่ของคณะเศรษฐศาสตร์ UTCC เป็นผู้สอนและบริหารหลักสูตรใหม่ด้วยตนเอง ประสบการณ์จากการทำงานที่คร่ำหวอดในภาคเอกชน ภาครัฐ กำหนดนโยบาย แวดวงการเงินการธนาคาร และภาคการศึกษามายาวนานหลายสิบปี ในฐานะ “ครูเศรษฐศาสตร์” จะเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ จุดไฟฝันแก่ผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจในแก่นแท้ของศาสตร์วิทยาการข้อมูลและเศรษฐศาสตร์อย่างถ่องแท้ และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างถูกต้อง คุ้มค่า และมีคุณค่า “การเรียนการสอนเศรษฐศาสตร์ที่นี่ ผมไม่อยากให้นักศึกษามีแค่ความรู้ และปัญญาในการประกอบอาชีพสร้างความร่ำรวย แต่เราต้องการนักศึกษาที่จบไปเป็นบัณฑิตที่มีชีวิตที่มีความหมาย สร้างประโยชน์ให้ผู้อื่น ให้กับสังคมได้ การปลูกฝังจริยธรรมและจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นเรื่องสำคัญในกระบวนการเรียนการสอนที่นี่ นักเศรษฐศาสตร์นอกจากสนใจเรื่องการแข่งขัน เรื่องประสิทธิภาพแล้ว ต้องสนใจในการทำอย่างไร ให้ระบบเศรษฐกิจและสังคมเป็นธรรมมากขึ้น ช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำ ถ้าสังคมเรามีดุลยภาพ สังคมนั้นก็ปกติสุข มีสันติธรรม เราก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข”

RANDOM

NEWS

“ส.ส.ดร๊าฟ” ยื่นร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับรวมไทยสร้างชาติ รื้อ ลด ปลด สร้างการศึกษาที่ตอบโจทย์ ต่อประธานสภา เชื่อหากผ่านสภาฯ จะเป็นประโยชน์ต่อ ประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น สังคม และประเทศชาติต่อไป

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!