วิศวฯ จุฬาฯ พลิกบทบาทสู่ผู้นำการจัดการด้านคาร์บอน ประกาศความร่วมมือองค์กรชั้นนำ พร้อมเพิ่มกลุ่มคนทักษะสูงด้านการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ในโครงการ CHULA LEARN – DO – SHARE PLUS หวังแก้เกมโลกรวน

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมมือกับ มูลนิธิอรุณ สรเทศน์ และ สถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน เปิดตัว “โครงการ Chula Learn-Do-Share Plus” พร้อมบรรยายพิเศษ  “จาก COP 29 สู่แนวทางการดำเนินงาน : ก้าวต่อไปของ SMEs ไทย” เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยได้รับเกียรติจากกลุ่มองค์กรและบุคลากรชั้นนำ อาทิ รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ คุณวีระวัฒน์ ชลายน ประธานกรรมการมูลนิธิอรุณ สรเทศน์ โดยกิจกรรมดังกล่าว มีเป้าหมายสร้างแรงผลักดันให้เกิดการเสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรในองค์กร เพื่อการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดบุคลากรในองค์กรที่มีทักษะจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมที่กำลังทวีความรุนแรงในปัจจุบัน
.
.
รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความสำคัญและตระหนักถึงหลากหลายการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในมิติของสิ่งแวดล้อม จึงพร้อมที่จะส่งต่อองค์ความรู้และปลุกแรงบันดาลใจให้กับนิสิต บุคลากร เพื่อสรรค์สร้างนวัตกรรมแห่งอนาคตสำหรับการรับมือกับปัญหาโลกร้อน ทั้งนี้ จึงได้ เปิดตัว “โครงการ Chula Learn-Do-Share Plus” รวมถึงจัดให้มีการรายงานผลการดำเนินงานของสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน ซึ่งนำโดย ศ.ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล ประธานกรรมการสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน และประกาศความร่วมมือระหว่าง คณะวิศวกรรมศาสตร์ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม สถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน และ ภาคีเครือข่าย เพื่อร่วมพัฒนาองค์ความรู้ หลักสูตรการอบรม แนวปฏิบัติที่ดี ควบคู่กับ การบริหารจัดการข้อมูล และกิจกรรมที่สนับสนุนให้เกิดการเสริมสร้างขีดความสามารถ (Capacity building) ให้กับบุคลากรในองค์กรในด้านการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ผ่านการประสานความร่วมมือของ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน และ ภาคีเครือข่าย
.
“โครงการ Chula Learn-Do-Share Plus” มีเป้าหมายส่งต่อองค์ความรู้และสร้างประสบการณ์ในการประเมิน Carbon footprint และการบริหารจัดการอย่างเหมาะสม ให้กับคณาจารย์ นิสิตนักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป รวมถึงการรายงานผลการดำเนินงานของ สถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน (CBiS) อาทิ การสนับสนุนเพื่อดำเนินการขึ้นทะเบียนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (CFO) ของ คณะวิศวฯ จุฬาฯ ในปี 2567 การพัฒนา Application CFID และ CFOL เพื่อช่วยในการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในชีวิตประจำวัน และองค์กร ตามลำดับ การจัดหลักสูตรอบรมด้าน Climate change ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น หลักสูตร Net Zero CEO Leadership program รุ่นที่ 1 ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย เป็นต้น”
.
.
ด้าน ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรมฯ เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่สำคัญ คือ การปลุกภาคเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และส่วนอื่น ๆ ให้เกิดการทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน ดังนั้น เพื่อให้โครงการดังกล่าวเกิดผลสัมฤทธิ์ จึงได้แลกเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคนโยบาย ผ่านประเด็น “จาก COP 29 สู่แนวทางการดำเนินงาน : ก้าวต่อไปของ SMEs ไทย” เพื่อให้เห็นถึงความท้าทายของธุรกิจ SMEs ในประเทศไทย ที่หลังจากนี้จะเป็นเรื่องของการมุ่งดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG ซึ่งล้วนมาจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ทิศทางการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงมาตรการทางการค้าต่าง ๆ เช่น CBAM จากความท้าทายเหล่านี้ นำมาสู่แนวทางการปรับตัวของธุรกิจ SMEs เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาด ซึ่งจะต้องเกิดการวางแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต การประเมิน CFO และ CFP ขององค์กร เสมือนเป็น New Normal ในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการใช้พลังงานหรือเทคโนโลยีภายในองค์กร โดยมีกลไกและมาตรการส่งเสริมจากส่วนกลาง ได้แก่ มาตรการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม การสนับสนุนเงินทุนในการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรอุปกรณ์ สิทธิประโยชน์และแรงจูงใจ และสินเชื่อสีเขียว รวมถึง ผลกระทบจากนโยบายของประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่ได้ประกาศให้สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงปารีส โดยจะระงับเงินอุดหนุนแก่กองทุนภูมิอากาศสีเขียว 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นความท้าทายของประเทศไทยที่ยังคงต้องเดินหน้าเตรียมความพร้อมรับมือกับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ยากขึ้น รวมถึงการปรับตัวต่อกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมของยุโรป
.
.
ทางด้าน ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวเสริมว่า ประเทศไทยมีการเก็บข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมมาในระยะหนึ่ง และมีข้อมูลในระดับที่ใช้งานได้ สิ่งสำคัญ คือ การเลือกข้อมูลมาใช้ประโยชน์ ในส่วนของการศึกษาและวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีความท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นระบบของโลกที่มีความซับซ้อน รวมถึงการบูรณาการระหว่างวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องข้อจำกัดของการได้มาซึ่งข้อมูล ความไม่ต่อเนื่องของข้อมูล การเผยแพร่และถ่ายทอดข้อมูลออกสู่สาธารณะ เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกัน สิ่งสำคัญ คือ ข้อมูล หากไม่มีข้อมูล ก็จะไม่สามารถบริหารจัดการได้ ซึ่งประเด็นนี้เป็นสิ่งที่ต้องปรับปรุง ว่าจะทำอย่างไรให้ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
Ecosystem ที่จำเป็นต่อการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีข้อมูลเพื่อการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเด็นสำคัญ กล่าวคือ นโยบายของภาครัฐที่ต้องชัดเจน มีการทำ simulation ให้เห็นภาพว่า หากธุรกิจทำแล้ว จะเกิดประโยชน์อย่างไร และหากไม่ทำ จะเกิดผลเสียอย่างไร การสร้างคนหรือทีมงานที่จะมารองรับในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีข้อมูล ซึ่งในส่วนนี้ มหาวิทยาลัยเป็นส่วนสำคัญ นอกจากนี้ ต้องมีการสร้าง solution หรือ start-up ที่สอดรับในด้านนี้ และมีการสร้างความร่วมมือในการสร้าง network”
.
ทั้งนี้ ยังมีการเสวนาวิชาการ หัวข้อ “นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการจัดการข้อมูลเพื่อการสร้างขีดความสามารถด้านการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วนมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และแลกเปลี่ยนมุมมอง เพื่อหาแนวทางในการนำพา SMEs ของประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง ประกอบด้วย ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน), คุณธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด, คุณสุทธิพงศ์ กนกากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กีเดี้ยนวัน จำกัด, ดร.นันทมล ลิมป์พิทักษ์พงศ์ สถาบันสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน, คุณอานนท์ ตั้งสถิตพร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อโยเดีย จำกัด และ ดร.ณัฐวิญญ์ ชวเลิศพรศิยา ผู้ดำเนินรายการ
.
.
สามารถติดตามรับชมงานแถลงข่าวและเสวนาย้อนหลังได้ที่
https:/ /www.facebook.com/ChulaEngineering และผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วม “โครงการ Chula Learn-Do-Share Plus” สามารถสมัครได้ที่ Facebook: Carbon Institute for Sustainability – CBiS ตั้งแต่วันนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ contact@cbis.institute

RANDOM

คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ชวนน้อง ๆ นักเรียน นักศึกษา ร่วมประกวดภาพยนตร์สั้น Short Film Contest “พราวไทย : Proud Thai สืบสาน อนุรักษ์ สร้างสรรค์เอกลักษณ์ วัฒนธรรมไทย” ชิงทุนการศึกษา 420,000 บาท สมัครและส่งผลงานได้ตั้งแต่บัดนี้ – 8 พ.ค. 67 

รัฐบาลญี่ปุ่น ร่วมกับ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) จัดประกวดภาพยนตร์สั้น หัวข้อ “สิ่งที่ฉันต้องการ” ในโครงการ JENESYS 2023 คัดเลือกตัวแทนเยาวชนไทยไปร่วมกิจกรรม ที่เมืองมินามิอาวาจิ จ.เฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น

NEWS

อพวช. ร่วมกับ สมาคมวิทยาศาสตร์ฯ และ สถาบันเกอเธ่ เชิญชวนน้อง ๆ นักศึกษา สมัครเข้าร่วมกิจกรรม ‘ทูตเยาวชนวิทยาศาสตร์ไทย’ ครั้งที่ 20 เพื่อเฟ้นหาตัวแทนประเทศบินอัปสกิลไกลถึงเยอรมนี หมดเขตรับสมัคร 23 ก.พ. นี้

สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ชวนน้อง ๆ นิสิต นักศึกษาทุกมหาวิทยาลัย ส่งผลงานออกแบบปรับปรุงภูมิทัศน์ อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ ภายใต้แนวคิด “Chula For All” พื้นที่สำหรับทุกคน ชิงรางวัลรวม 70,000 บาท หมดเขตส่งผลงาน 14 ก.พ. นี้

การยางแห่งประเทศไทย เชิญชวนน้อง ๆ นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ร่วมประกวดออกแบบโลโก้ “เกษตรกรชาวสวนยางรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer)” ชิงเงินรางวัลรวม 96,000 บาท เปิดรับผลงาน ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 17 ก.พ.

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!