จากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 1,500 บาท แลกกับผืนดินบนดอยอ่างขาง เกิดเป็นโครงการหลวงแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงผืนดินขนาดใหญ่ที่เคยเป็นไร่ฝิ่น และป่าเสื่อมโทรม กลับกลายเป็นสวนสวรรค์แห่งพืชพรรณเมืองหนาว และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของภาคเหนือ หนึ่งในสถานที่ที่คนทั่วโลกอยากมาเยือนมากที่สุด
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อสืบสานพระราชปณิธานแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดโครงการ “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา” ครั้งที่ 48 เพื่อนำคณะครูอาจารย์ และผู้สนใจ เดินทางมาเรียนรู้ต้นแบบแห่งความสำเร็จในการพัฒนาพื้นที่สูงของประเทศไทย ณ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ และเป็นการเผยแพร่ศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนนได้รับรู้ในวงกว้าง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ไม่เพียงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการหลวง แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จในการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน ที่สามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตของชาวไทยภูเขา จากที่เคยพึ่งพารายได้จากการปลูกพืชเสพติด สู่การเพาะปลูกพืชเมืองหนาว ที่มีมูลค่าสูง สร้างรายได้อย่างมั่นคง ที่นี่คือแหล่งเรียนรู้ที่มีชีวิต ที่แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากการเข้าใจ เข้าถึง วิถีชีวิตความเป็นอยู่ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาตามแนวพระราชดำริ โดยคำนึงถึงทั้งมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมกัน ความสำเร็จที่เกิดขึ้นที่นี่ ได้กลายเป็นต้นแบบให้กับโครงการพัฒนาพื้นที่สูง รวมถึงโครงการพัฒนาในมิติอื่น ๆ ทั่วประเทศ ดังปณิธานของโครงการหลวงที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานว่า ช่วยขาวเขา ช่วยชาวเรา ช่วยชาวโลก
ผู้เข้าร่วมโครงการได้สัมผัสความงดงามของสวนดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่ดอกซากุระเมืองไทย บานสะพรั่งเป็นสีชมพูทั่วทั้งดอย สร้างทัศนียภาพที่สวยงาม ผสานกับ ความงามของดอกท้อ และดอกพญาเสือโคร่ง ที่ผลัดกันบานในช่วงปลายฤดูหนาวต้นฤดูร้อน นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมสวนต่าง ๆ อาทิ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา สวนสมเด็จ ที่รวบรวมพันธุ์ไม้ประดับเมืองหนาว สวนแปดสิบ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน และ สวนกุหลาบอังกฤษ ที่รวบรวมกุหลาบไว้กว่า 200 สายพันธุ์
อีกหนึ่งไฮไลท์พิเศษของการเยี่ยมชมครั้งนี้ คือ สวนคำดอย แหล่งปลูกดอกคำดอย หรือ กุหลาบพันปีพันธุ์หายาก และ สวนหอม ที่รวบรวมพันธุ์ไม้หอมทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น หอมหมื่นลี้ ลาเวนเดอร์ และ แมกโนเลีย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชเมืองหนาวที่เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศไทย
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ยังได้ร่วมกิจกรรมกับมูลนิธิธรรมดี ในการมอบอุปกรณ์ทางการศึกษา และการกีฬาให้กับ 6 โรงเรียนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ได้แก่ โรงเรียนเทพศิรินทร์ 9 โครงการหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนบ้านขอบด้ง โรงเรียนบ้านแม่สาว โรงเรียนบ้านสันต้นดู่ โรงเรียนบ้านต้นส้าน และ โรงเรียนมิตรมวลชนเชียงใหม่
ทางโครงการฯ ยังได้จัดกิจกรรม Workshop และการบรรยายเกี่ยวกับศาสตร์พระราชา เพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนในทุกมิติ จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี และ อาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม ที่ปรึกษาและอดีตนายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย ผู้คิดค้นนวัตกรรมสื่อการสอนสำหรับเยาวชนในศตวรรษที่ 21 หรือ Interactive Board Game หนึ่งเดียวในโลก เพื่อผลักดันให้เกิดนวัตกรรมแบบก้าวกระโดด และเตรียมความพร้อมประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2030
โครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ หน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) คุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ สมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย และ มูลนิธิธรรมดี โดยได้รับการสนับสนุนหนังสือจาก โครงการอมรินทร์อาสา อ่านพลิกชีวิต อมรินทร์กรุ๊ป
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งต่อไป สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ คุณจารุกัญญ์ โทร. 099-397-5333 หรือ FB : ตามรอยพระราชา-The King’s Journey โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านจะได้รับประกาศนียบัตรจากทางโครงการฯ ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นหนึ่งในกิจกรรมการพัฒนาตนเองในการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจาก คุรุสภา ได้