ปิดฉาก โครงการฝึกอบรม-ฝึกงานคนพิการ มจธ. “HigherEd for PWD” ระยะที่ 1 เสริมสมรรถนะคนพิการสู่ตลาดแรงงานจริง

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และมหาวิทยาลัยเครือข่าย 5 แห่ง จัดแถลงข่าวสรุปผลและปิดโครงการการขยายผลเครือข่ายอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาศักยภาพคนพิการเพื่อการประกอบอาชีพ ผ่านโมเดลการฝึกอบรม-ฝึกงานคนพิการ มจธ. HigherEd for PWD ระยะที่ 1 ซึ่งเป็นโครงการขยายผลเครือข่ายอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพคนพิการสู่การประกอบอาชีพในตลาดแรงงานจริง ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้อง Auditorium ชั้น 3 อาคารการเรียนรู้พหุวิทยาการ (LX) มจธ. บางมด กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีปิดโครงการ

รศ. ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ. กล่าวว่า โครงการ HigherEd for PWD เป็นการนำประสบการณ์และรูปแบบการพัฒนาหลักสูตรฝึกอาชีพคนพิการของ “โครงการฝึกอบรม-ฝึกงานคนพิการ มจธ.” ที่ มจธ. ดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2557 มาขยายผลผ่าน 5 มหาวิทยาลัยเครือข่าย ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่ง พัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมและฝึกงานที่ออกแบบมาให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน (Demand-Driven) ในพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง

“จากเดิมที่ มจธ. ดำเนินโครงการฝึกอาชีพให้คนพิการได้เฉลี่ยรุ่นละ 50 คน แต่เมื่อเริ่มโครงการ HigherEd for PWD ในปีแรก สามารถขยายการอบรมให้คนพิการจากทั่วประเทศได้ถึง 300 คน นอกจากช่วยเพิ่มโอกาสให้กับคนพิการมากขึ้นแล้ว โครงการนี้ยังทำให้สถาบันและบุคลากรที่เข้าร่วมโครงการเข้าใจ โมเดล 6 ขั้นตอน ของการฝึกอาชีพคนพิการ ซึ่ง มจธ. ใช้เวลากว่า 10 ปีในการพัฒนา และสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของมหาวิทยาลัยและความต้องการของตลาดแรงงานในแต่ละพื้นที่”

ด้าน ดร.อรกัญญาณี เลี้ยงอิสสระ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต มจธ. หัวหน้าโครงการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า โมเดลหลัก 6 ขั้นตอน ที่ มจธ. ในฐานะพี่เลี้ยงโครงการฯ ได้มีการสนับสนุนมหาวิทยาลัยเครือข่ายทั้ง 5 แห่ง เพื่อจัดทำและฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาทักษะอาชีพให้กับคนพิการในพื้นที่ของตนเอง ประกอบด้วย (1) การหารือกับสถานประกอบการเพื่อพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน และเหมาะสมกับคนพิการ (2) การรับสมัครและคัดเลือกคนพิการตามคุณสมบัติของแต่ละหลักสูตร (3) การฝึกอบรมและฝึกงานเป็นระยะเวลา 6 เดือน ครอบคลุมทั้งทักษะอาชีพ ทักษะการทำงานและการใช้ชีวิต และสร้างประสบการณ์ทำงานจริง (4) การสนับสนุนการจ้างงานร่วมกับภาคีทั้งภาครัฐและเอกชน (5) ระบบพี่เลี้ยงเพื่อติดตามและให้คำแนะนำ และ (6) การเก็บข้อมูล วิเคราะห์ผลกระทบ และประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งมหาวิทยาลัยเครือข่ายทั้ง 5 แห่ง สามารถนำไปปรับใช้กับหลักสูตรของตนเองได้อย่างยืดหยุ่นและสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่

โครงการนี้เปิดโอกาสให้คนพิการได้เลือกเส้นทางอาชีพที่เหมาะสมกับตนเอง ผ่านหลักสูตร 2 แนวทางหลัก ได้แก่ หลักสูตรเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน สำหรับผู้ที่ต้องการทำงานในสถานประกอบการ ในส่วนของหลักสูตรอาชีพอิสระ สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้ด้วยตนเอง ตัวอย่างเช่น หลักสูตรการทำดอกไม้จันทน์ ของ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่ไม่ได้สอนเพียงการผลิต แต่ยังสอนวิธีจำหน่ายและสร้างรายได้ด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ มจธ. ยังมีบทบาทเป็น ‘พี่เลี้ยง’ คอยสนับสนุนและช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ สามารถหางาน หรือ เริ่มต้นอาชีพของตัวเองได้จริง โดยตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการไม่ได้พิจารณาเพียงจำนวนผู้เข้าอบรม แต่ยังให้ความสำคัญกับรายได้ที่เกิดจากการจ้างงานและการประกอบอาชีพอิสระ ผลลัพธ์จากรุ่นแรก ที่มีผู้เข้าร่วม 300 คน พบว่า 84% สามารถประกอบอาชีพได้จริง แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับการจ้างงานในสถานประกอบการ ตามมาตรา 33 จำนวน 9 คน ทำงานภายใต้เงื่อนไขมาตรา 35 จำนวน 31 คน และ อีก 212 คน เลือกประกอบอาชีพอิสระ โดยมีเครือข่ายมหาวิทยาลัยเป็นพี่เลี้ยง สนับสนุนการประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงตนเอง ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงประสิทธิภาพของโครงการที่ช่วยเสริมทักษะและสร้างโอกาสในการทำงานให้กับคนพิการอย่างเป็นรูปธรรม

จากความสำเร็จระยะที่ 1 ส่งผลให้เกิดการทำงานโครงการฯ ในระยะที่ 2 ซึ่งมุ่งขยายผลในระดับประเทศ โดยมีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือโครงการนำร่องการสนับสนุนให้สถานศึกษาเพิ่มศักยภาพของคนพิการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการ ระยะที่ 2 ระหว่าง กระทรวง พม. กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเชื่อมโยงการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ถือเป็นก้าวสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือภาครัฐ ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการอย่างเป็นระบบ รวมถึงการมุ่งสร้างระบบฝึกอบรมที่เข้าถึงง่าย รองรับความต้องการที่หลากหลาย และเปิดโอกาสให้คนพิการได้รับการพัฒนาทักษะอย่างครอบคลุมมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสทำงาน มีอาชีพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพิ่มเติม 2 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์ และ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี เข้ามาร่วมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการในระยะที่ 2

ดร.อรกัญญาณี กล่าวทิ้งท้ายถึงโครงการระยะที่ 2 ว่า เป็นก้าวสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการอย่างเป็นระบบ สร้างระบบฝึกอบรมที่เข้าถึงง่าย และตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย เปิดโอกาสให้คนพิการได้พัฒนาทักษะ มีงานทำ และมีอาชีพที่มั่นคง นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือระยะสั้น แต่เป็นการวางรากฐานให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีความเท่าเทียม และมีโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น สอดคล้องกับแนวทาง “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ของ รัฐมนตรี กระทรวง พม. และหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของประเทศไทย

RANDOM

เลือกผู้นำบ้านอัมพวัน ‘เหมือนการละเล่น’ จริงหรือ และ ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง ให้มีศักดิ์ศรี สู่สากลได้หรือยัง ดูเหตุการณ์การเลือกตั้ง และการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ จากยุคสุดท้าย ของ ‘เสธ.ทวี ถึง ยุคบิ๊กป้อม’ จะเห็นภาพชัดๆ

NEWS

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!