ศธ. ตั้งทีมผู้ตรวจฯ ลงพื้นที่ลุยติดตามผล 5 นโยบายเร่งด่วน เน้นแก้ปัญหาตรงจุด รู้ผล พ.ค. นี้

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผย ภายหลังการประชุมการขับเคลื่อนและติดตามประเมินผลประเด็นนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ตามที่ตนได้มอบหมายให้ทุกองค์กรหลักและส่วนราชการต่าง ๆ ในสังกัด ศธ. ขับเคลื่อนงานตามนโยบายเร่งด่วน 5 เรื่อง ได้แก่ 1) พาน้องกลับมาเรียน ค้นหา ติดตามเด็กตกหล่น และออกกลางคัน กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา , กศน.ปักหมุด เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาสำหรับคนพิการและผู้ด้อยโอกาส 2) โรงเรียนคุณภาพ 3) อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ 4) ความปลอดภัยในสถานศึกษา 5) หนี้สินครู เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา และพัฒนาคุณภาพการศึกษา ภายใต้บริบทสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

การขับเคลื่อนทั้ง 5 เรื่อง ทุกฝ่ายต้องร่วมมือช่วยกันดูแลผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา อย่างเต็มที่ จึงประสบผลสำเร็จ ดังนั้น เพื่อให้การขับเคลื่อนในพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามประเมินผลประเด็นนโยบายเร่งด่วน ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามประเมินผลประเด็นนโยบายเร่งด่วน ระดับเขตตรวจราชการ และคณะกรรมการประสานงานและบริหารจัดการ

โดย คณะกรรมการอำนวยการ มีอำนาจหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน กำกับดูแล ติดตามการปฏิบัติงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามประเมินผลประเด็นนโยบายเร่งด่วน ระดับเขตตรวจราชการที่ 1 – 18 และเขตตรวจราชการส่วนกลาง (กทม.) ให้บรรลุผลตามนโยบายของ ศธ. และปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย โดย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน, เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, เลขาธิการสภาการศึกษา, เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา, เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน, เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นกรรมการ มีหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรรมการและเลขานุการ รวมถึงเป็นประธานคณะกรรมการประสานงานและบริหารจัดการด้วย

คณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามประเมินผลประเด็นนโยบายเร่งด่วน ระดับเขตตรวจราชการ โดยมีผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ทั้ง 12 คน เป็นประธานกรรมการ ซึ่งแบ่งตาม 18 เขตตรวจราชการ ที่แต่ละคนดูแลอยู่ มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการลงพื้นที่ติดตาม ประเมินผล และสื่อสารสร้างความเข้าใจใน 5 นโยบายเร่งด่วน โดย ศึกษาธิการภาค และผู้แทนส่วนราชการที่รับผิดชอบนโยบายดังกล่าว ร่วมเป็นคณะกรรมการ และมีสำนักตรวจราชการและติดตามประเมินผล สป.ศธ. เป็นฝ่ายเลขานุการ

“การลงพื้นที่ต้องมีรูปแบบการติดตามที่หลากหลาย เน้นสภาพจริง และไม่เป็นทางการ เพื่อไม่เป็นภาระกับหน่วยงานในพื้นที่ การติดตามต้องเป็นแบบกัลยาณมิตร และรายงานผล กระชับ ตรงประเด็น รวดเร็ว เพื่อสะท้อนสภาพปัจจุบัน และแก้ปัญหาได้ตรงจุด ตลอดจนมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อนำไปสู่การสนับสนุน ส่งเสริม และแก้ปัญหา มายังกระทรวงศึกษาธิการ” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว

โดยในระยะแรก ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ คณะกรรมการฯ จะลงพื้นที่ติดตามประเมินผล 5 ประเด็นนโยบายเร่งด่วน โดยมีการติดตามและรายงานผลการติดตาม จำนวน 2 ครั้ง คือ หลังเทศกาลสงกรานต์ และก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ในการดำเนินการโครงการให้มีประสิทธิภาพ และทันเปิดเรียนในเดือนพฤษภาคมนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

RANDOM

สมาคมกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งไทย ร่วมกับสมาคมเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำ และการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) จัดงานวันป้องกันจมน้ำโลก ที่สระว่ายน้ำการกีฬาแห่งประเทศไทย คนร่วมล้นหลาม สำเร็จด้วยดี

วธ. เดินหน้าจัดกิจกรรม “ขับเคลื่อนวัฒนธรรมสร้างสรรค์สัญจร” ปี 2 ออนทัวร์สู่สถานศึกษา 4 ภูมิภาค สร้างภูมิคุ้มกันรู้เท่าทันสื่อและภัยคุกคาม ตั้งเป้าขยายเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมครอบคลุมทั่วประเทศ

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!