“ตรีนุช” เตรียมพร้อมรับมือเปิดเทอม 1/2565 เข้มมาตรการความปลอดภัย 6-6-7 เน้นจัดการเรียนการสอนแบบ On-Site

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ในเดือนพฤษภาคมนี้ ว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายให้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบ On-Site หรือจัดการเรียนการสอนที่สถานศึกษาให้มากที่สุด โดยไม่นำเรื่องการฉีดวัคซีนมาเป็นเงื่อนไขในการมาเรียนของนักเรียน

ขณะเดียวกัน ศธ.จะรณรงค์ให้นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ไปจนถึงนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ให้มากที่สุด และสถานศึกษาต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย 6-6-7 เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในสถานศึกษาอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ความมั่นใจว่าสถานศึกษาเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

“สำหรับการดูแลนักเรียน เบื้องต้นได้หารือกันว่า อาจจะต้องแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มาโรงเรียนได้ ต้องมีการเว้นระยะห่างในการทำกิจกรรมต่าง ๆ และกลุ่มที่ไม่สามารถมาเรียนที่โรงเรียนได้ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ทางโรงเรียนต้องจัดการเรียนการสอนในรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียนแต่ละคน เช่น การเรียนการสอนแบบ Online ผ่านอินเทอร์เน็ต และ On-Hand สำหรับนักเรียนที่ไม่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์ โดยการนำหนังสือ แบบฝึกหัด ใบงาน ไปเรียนรู้ที่บ้าน เป็นต้น ทั้งนี้ สถานศึกษาต้องไปพิจารณาแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับบริบทในพื้นที่ของตนเอง เพื่อคุณภาพในการจัดการศึกษา และความปลอดภัยของผู้เรียนทุกคน” รมว.ศธ. กล่าว

จากข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุด เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2565 พบว่า

ครูและบุคลากรสังกัด ศธ. ทั้งในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน จำนวน 685,528 คน ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้วกว่า 99.99 % มีเพียง 15,474 คน ที่ไม่ได้รับวัคซีน ในจำนวนนี้มีถึง 97% ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ถึงเข็มที่ 4 แล้ว

นักเรียน นักศึกษา ช่วงอายุ 12 ปีขึ้นไป หรือ ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ถึง ปวส. ทั้งหมดจำนวน 5,171,840 คน ประสงค์ฉีดวัคซีน 4,428,331 คน คิดเป็น 85.62 % ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 แล้ว จำนวน 4,232,281 คน คิดเป็น 95.57% ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว จำนวน 3,399,786 คน คิดเป็น 76.77%

ส่วนนักเรียนช่วงอายุ 5 ปี ถึงอายุ 12 ปี (ไม่เกิน 11 ปี 11 เดือน 29 วัน) ทั้งหมดจำนวน 5,263,064 คน ประสงค์ฉีดวัคซีน 3,346,064 คน คิดเป็น 63.58 % ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 แล้วจำนวน 1,487,003 คน คิดเป็น 44.44% ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วจำนวน 46,162 คน คิดเป็น 1.38% ซึ่งในระหว่างปิดภาคเรียนนี้ ศธ.จะประสานกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการฉีดวัคซีนให้นักเรียนได้อย่างครอบคลุมทั่วถึงมากที่สุด

ทั้งนี้ มาตรการความปลอดภัย 6-6-7 ที่สถานศึกษาต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือ มาตรการความปลอดภัย 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) ได้แก่ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ คัดกรองวัดไข้ ลดการแออัด และทำความสะอาด 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) ประกอบด้วย ดูแลตนเอง ใช้ช้อนกลาง กินอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้าออกโรงเรียน สำรวจตรวจสอบ และกักกันตัวเอง และ แนวทาง 7 มาตรการเข้ม สำหรับสถานศึกษา ได้แก่ การประเมิน TSC+ รายงานผลผ่าน MOE COVID อย่างต่อเนื่อง, การทำ Small Bubble สำหรับกิจกรรมแบบกลุ่มย่อย, การจัดอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ, การอนามัยสิ่งแวดล้อม ทั้งอากาศ ความสะอาด น้ำ ขยะ, การทำ School Isolation โดยมีแผนเผชิญเหตุและซักซ้อม, การทำ Seal Route ดูแลการเดินทางจากบ้านไปกลับโรงเรียน และการจัดให้มี School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา

RANDOM

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!