ทุนการศึกษา “คมส่งฝัน” ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับ ป.ตรี ทุนละ 100,000 บาท เปิดรับสมัคร 1 มิ.ย. – 31 ส.ค. 65

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

คุณคมสันต์ แซ่ลี เปิดรับสมัครทุนการศึกษา “คมส่งฝัน” ประจำปีการศึกษา 2565 สำหรับนักเรียนและนักศึกษาที่เรียนดีในระดับปริญญาตรี มีความประพฤติดี มีความกตัญญู แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการพิจารณาให้ได้รับทุนการศึกษา จะได้รับทุนต่อเนื่องจนจบแต่ละช่วงชั้นการศึกษา ทุนละ 100,000 บาท จำนวน 22 ทุน ต่อปี เป็นทุนแบบให้เปล่า โดยผู้รับทุนไม่ต้องชดใช้คืนแต่อย่างใด จนจบปริญญาตรี ผู้ขอทุนจะต้องนำความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพตามสายงานที่ศึกษามาโดยตรง เพื่อพัฒนาประเทศชาติต่อไป

เปิดรับสมัคร วันที่ 1 มิ.ย. – 31 ส.ค. 65
คัดเลือกผู้สมัคร 1 ก.ย. – 29 ก.ย. 65
ประกาศผู้ได้รับทุน 30 ก.ย. 65

 

 

รายละเอียดทุน
ทุนการศึกษา ทุนละ 100,000 บาท ต่อปี แบ่งเป็น
-ค่าธรรมเนียมการศึกษา จำนวน 2 ภาคการศึกษา 64,000 บาท
– ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เดือนละ 3,000 บาท จำนวน 12 เดือน รวมเป็นเงิน 36,000 บาท
ปีละ 100,000 บาท จำนวน 22 ทุน รวมเป็นเงิน 2,200,000 บาท

คุณสมบัติผู้สมัคร
1. ผู้ขอรับทุนต้องศึกษาในสาขาวิชาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร สาขาวิชาด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัล สาขาวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชาพาณิชยศาสตร์และการบัญชี หรือ สาขาวิชาที่ทำประโยชน์ต่อสังคม โดยสังกัดมหาวิทยาลัยรัฐ
2. มีอายุไม่เกิน 19 ปี นับถึงวันที่ 31 ส.ค. 65
3.ผู้ขอรับทุนกำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ชั้นปีที่ 1 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า 4 ภาคการศึกษาล่าสุด เฉลี่ยรวมไม่ต่ำกว่า 2.75
4. ผู้ขอรับทุนต้องมีใบรับรองความประพฤติจากอาจารย์ที่ปรึกษา รองคณบดี หรือคณบดี

เงื่อนไขการให้ทุน
1. ผู้ขอรับทุนจะต้องเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย ตามประกาศมหาวิทยาลัย ว่าด้วยการรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย และเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับทุนการศึกษานี้
2. ผู้ขอรับทุนต้องมีความประพฤติดี เป็นคนดี ขยันหมั่นเพียร และมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
3. ผู้ขอรับทุนต้องเป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ครอบครัวมีฐานะยากจน หรือผู้อุปการะมีรายได้รวมต่ำกว่า 150,000 บาท ต่อปี
4. ต้องเป็นผู้ไม่ได้รับทุนซ้ำซ้อนกับองค์กร หรือหน่วยงานอื่น ๆ รวมถึงไม่ได้รับเงินกู้จากกองทุนให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา หรือกองทุนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต ในขณะที่ ได้รับทุนการศึกษาจากโครงการ “คมส่งฝัน”
5. หากผู้ขอรับทุนมีจิตอาสา ร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

วิธีการสมัครเพื่อขอรับทุน
1. ขอรับระเบียบการสมัครการขอรับทุน จากหน่วยงานด้านทุนการศึกษาของคณะ / ภาควิชา หรือหน่วยงานด้านทุนการศึกษาในสถาบันการศึกษาที่ท่านสังกัดอยู่ หรืออ่านระเบียบจาก QR Code ในโปสเตอร์
2. กรอกใบสมัครด้วยตนเองจาก QR Code ในโปสเตอร์ หรือลิงก์ใบสมัครที่หน้าเพจ “คมส่งฝัน” พร้อมทั้งแนบไฟล์รูปถ่ายชุดนักศึกษาหน้าตรง แนวตั้ง จำนวน 1 รูป ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน
3. หลังจากกรอกใบสมัครด้วยตนเองจาก QR Code ในโปสเตอร์ หรือลิงก์ใบสมัครที่หน้าเพจ “คมส่งฝัน” เรียบร้อยแล้ว รอทางเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเพื่อยืนยันการสมัคร
4. กรอกใบสมัครการขอรับทุน โครงการ “คมส่งฝัน” โดยกรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ให้ผู้สมัครนำเอกสารดังกล่าว ส่งให้กับอาจารย์ที่ปรึกษา หรือหัวหน้าแผนก ภาควิชา / อาจารย์ผู้ดูแลทุนการศึกษาของสถาบัน ลงนามรับรองว่าข้อความที่นักศึกษากรอกเป็นความจริง ตามเอกสารประกอบใบสมัครอื่น ๆ
– เอกสารรับรองความประพฤติ และความเหมาะสมในการรับทุน
– หนังสือยินยอมอนุญาตให้เก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ให้ผู้สมัครนำเอกสารชุดดังกล่าวไปลงนามยินยอม และหากผู้สมัครอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ จะต้องให้ผู้ปกครองลงนามรับรองด้วย

เอกสารประกอบการสมัครทุนการศึกษา ที่รับรองสำเนาถูกต้อง
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 2 แผ่น
– สำเนาบัตรประจำตัวนักศึกษา 2 แผ่น
– สำเนาทะเบียนบ้าน 2 แผ่น
– สำเนาทรานสคริปต์ หรือใบรับรองผลการเรียน จำนวน 4 ภาคการศึกษาล่าสุด 2 แผ่น
– สำเนาใบเสร็จค่าเทอม / ค่าบำรุงการศึกษา และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษา 2 แผ่น
– เอกสารแฟ้มผลงาน (Portfolio)อัปเดตในรอบ 3 ปี และเอกสารประกอบการพิจารณาอื่น ๆ (ถ้ามี)

ส่งใบสมัครทุนการศึกษา โครงการ “คมส่งฝัน” และเอกสารการขอรับทุน มาที่ฝ่าย People Development เลขที่ 161 อาคารยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์ ชั้น 7 และ 8 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร 092-252-9534, 087-549-1669 หรือ 098-345-5818

RANDOM

หลังเกิดกรณี อดีตทีมชาติตะกร้อเปิดเผย หลังเคยโดนโค้ช แบ่งเงินรางวัลเอเชี่ยนเกมส์ ด้าน’รองชุม’ รู้ข่าว ชี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะทุกคนได้จากกองทุนกีฬาอยู่แล้ว และฝากถึงทุกสมาคมให้ดูแลนักกีฬาใกล้ชิด

NEWS

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!