#ตะกร้อเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่11ปี2533
วันที่ 28 กันยายน 2533 เป็นวันชิงทีมชุด ตะกร้อ เอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 11 ที่กรุงปักกิ่งประเทศจีน ซึ่งถือเป็นการชิงเหรียญทองครั้งแรกของกีฬาตะกร้อ ในเอเชี่ยนเกมส์ เพราะได้บรรจุเข้าสู่มหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียเป็นครั้งแรก
#ทีมไทยนำก่อนแต่แพ้2เซตหลังในทีมแรก
ทีมไทย ส่งชุดแรกลง ประกอบด้วย เกรียงไกร มุทาลัย อิทธิพล คมชัยศักดิ์ และ ณรงค์ ชายแก้วนพรัตน์ ขณะที่มาเลเซีย มีเรฮาน โมฮัมหมัด ดิน อับดุล มาลิค ซัมซุดดิน นอร์ดิน ซาบารุดดิน ลงดวลเพื่อแย่งแต้มแรกของทีมชุด
เซตแรกทีมไทยฮึกเหิมนำก่อนตลอดทาง ตั้งแต่ 4-2 ไป 7-4 และไม่มีจุดผิดพลาด นำต่อไปถึง 13-9 ก่อนที่ณรงค์ จะเสิร์ฟพาทีมเข้าวิน 15-9 แต่พอมาเซตที่ 2 ทีมไทยออกนำนิดหน่อย แต่มาเลเซียไล่เสมอ 2-2 จากนั้นเสือเหลืองมาเลเซียก็เป็นฝ่ายนำ 5-3 จนทีมไทยต้องขอเวลานอกก่อนจะยังมาตามต่อ 3-8 แต่จากนั้น ณรงค์เข้าฝักอีกครั้งพาทีมไล่บี้จนมาถึง 7-8 เกมในสนามเริ่มสนุก แต่ทีมเสือเหลืองนิ่งมาก เป็นฝ่ายนำไปจ่อ 13-11 เมื่อถึงช่วงนั้น อิทธิพล ก็ใช้ลูกเล่นดึงเกม ด้วยการขอเปลี่ยนเสื้อ แต่พอเปลี่ยนแล้วเบอร์เสื้อไม่ตรงเบอร์ 2 คือเบอร์ของอิทธิพล (แต่เปลี่ยนใส่เบอร์ 5) จึงต้องเปลี่ยนเสื้ออีก แม้ว่าจะดูวุ่นวายแต่ไทยก็ได้เวลาพักพอสมควร ซึ่งเมื่อกลับสู่เกม ณรงค์ เสิร์ฟพาจี้ไป 12-13 แต่ก็ไปต่อไม่รอด เมื่อ เรฮาน ทั้งรับทั้งทำเด่นมากพาทีมมาเลเซียชนะ 15-12
ซัดกันในเซตที่สาม ตัดสินกัน ท่ามกลางเสียงเชียร์สนั่นฮอลล์ แต้มเบียดกันไปกลางเซตที่ มาเลเซียนำ 8-7 ต่อจากนั้น เรฮาน คนเดิม ดาวเด่นของมาเลเซีย ก็ช่วยสานใจทีมเสือเหลืองทำให้เล่นดีมาก และนำไปถึง 14-7 ก่อนที่ลูก
สุดท้าย นอร์ดิน จะเสิร์ฟยัดใส่ ณรงค์รับแต่ไม่อยู่ ลูกพลิกออกนอกสนามทำให้ทีมเสือเหลืองชนะไป 15-7 ในทีมแรก
#ทีมชุดที่สองของไทยพาตามมาตีเสมอ
ทีมชุดที่สองของไทย ตอนลงสนามนั้น มีชูชีพ คงมีชนม์ คำนวน สุนนานนท์ และ ชัยรัตน์ เครื่องดี ขณะที่มาเลเซียมี รอสซี รามาน ซาอาริ ฮัสซิม จาอีส บาฮาลุม แต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นทีมไทยก็เปลี่ยนเอา ภักดี แดงวัฒนไพบูลย์ ลงแทน ชัยรัตน์ ซึ่งแผนนี้ทีมไทยทำได้ดี เมื่อองค์ประกอบลงตัว พากันอัดมาเลเซียไป 15-5 และ 15-11 ตามไล่มาตีเสมอ 1-1 ทีม
#ทีมชุดที่สามทีมเสือเหลืองงาบเหรียญทอง
การตัดสินอยู่ที่ทีมที่สาม ซึ่งทีมไทย ส่งสุรัตน์ ณ เชียงใหม่ วิสุทธิ์ บุญสุยา และ วิรัช โพธิ์ม่วง ซึ่งถือเป็นชุดเด่นของไทยในช่วงนั้น ลงเล่นกับ บาฮารุม จาฮา ซูไฮมี ยูซูป และ นอรานี อัดนัน ทีมไทยเปิดฉากได้ดี และนิ่งนำไปถึง 10-4 แล้วก็หยุดนิ่งเป็นเวลานาน ก่อนที่สุรัตน์ จะเสิร์ฟพาน้อง ๆ ขยับไปที่ 11-5 ได้ แต่ก็ไม่สามารถเดินต่อได้อีกมีการเปลี่ยนเสิร์ฟกันตลอด จากนั้นสิ่งที่ทำให้กองเชียร์มาเลเซียได้ใจกันสนั่นฮอลล์อีกก็มา เมื่อทีมตะกร้อเสือเหลืองเป็นฝ่ายเสิร์ฟและไทยฟาดกลับไม่ได้ต่อเนื่องถึง 8 แต้ม จนมาเสมอกันที่ 8-8 จากนั้นมาเลเซียได้ใจ นอรานี เสิร์ฟกินวิรัชและวิสุทธิ์ พามาเลเซียขยับไป 13-11 แต่ไทยก็รวมใจฮึดไล่มา 13-13 ทีมมาเลเซียขอดิวส์ 5 แต้ม และทำได้ดีบี้ทีมไทยกวาด 5 แต้มเข้าวินไป 18-13
เซตที่สอง สุรัตน์ เสิร์ฟได้นิ่งพาทีมไทยกินแต้มนำห่างไปถึง 11-2 แม้ว่ามาเลเซียจะขยับมาถึง 7-12 แต่สุรัตน์ ยังเหนียวพาทีมไทยขยับไปถึง 14-7 แต่แต้มสุดท้ายที่รอนั้นยาวนาน ก่อนที่วิรัช จะบล็อกได้ พาทีมไทยชนะไป 15-11 ต้องซัดกันในเซตที่สาม ซึ่งช่วงแรกคู่คี่บี้กันถึง 5-5 จากนั้นทีมไทยคู่หน้าเริ่มไม่นิ่ง วิรัชฟาดไม่เป็นใจ มาเลเซียนำไป 11-5 แต่พอถึงช่วงนี้ทีมไทยกลับมารวมใจดีขึ้นค่อย ๆ ไล่ทีละแต้มจนกระทั่ง ตามเสมอ 13-13 อีกหนและก็แบบเดิมคือ ดิวส์ 5 แต้ม
ในเกมดิวส์นี้ ทีมไทยนำไปก่อน 2-0 จากนั้นก็โดนคู่แข่งไล่มา 2-2 และมาเลเซียออกนำ 3-2 และแต้มของทีมไทยก็หยุดอยุ่ที่ 2 เมื่อเกมรับไม่ได้ดั่งใจ ท้ายสุดมาเลเซียก็เข้าวินไป ในเกมดิวส์ 5-2 รวมแต้ม 18-15 คว้าเหรียญทองแรกของประวัติศาสตร์เอเชี่ยนเกมส์ไปได้สำเร็จ โดยใช่เวลาการแข่งขันทั้งหมดนั้นตั้งแต่ 17.30 น.-23.30 น. กว่า 6 ชม.ทีเดียว
นักกีฬาตะกร้อไทยอีก 2 คนที่ไม่ปรากฏชื่อในเกมส์แข่งรอบชิงชนะเลิศคือ สมศักดิ์ ดวงเมือง และ ไพศาล ใหม่หันลา
ขณะที่ทีมสิงคโปร์ ก็ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของทีมตะกร้อลอดช่องเช่นกัน เมื่อคว้าเหรียญทองแดงสำเร็จ ซึ่งโค้ชของทีมสิงคโปร์คือ คนไทย ที่ชื่อ “อาจารย์อ๊อด” สถาพร เกษแก้ว อดีตนักตะกร้อของอุบลราชธานี ซึ่งทำงานที่กรมพลศึกษาในช่วงนั้นนั่นเอง
#ประเภททีมเดี่ยวได้เหรียญเงินอีก
หลังจากพลาดท่าได้เพียงเหรียญเงิน ในประเภททีมชุด นั้น ทีมตะกร้อไทย ก็คัดเลือกเอา 4 ผู้เล่นจาก 12 คน มาเล่นทีมเดี่ยว ในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 11 ปี 2533 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยทีมเดี่ยวเริ่มการแข่งขันวันที่ 30 ก.ย.2533
ทีมเดี่ยวของไทยประกอบด้วย ภักดี แดงวัฒนไพบูลย์ ชูชีพ คงมีชนม์ เกรียงไกร มุทาลัย และ อิทธิพล คมชัยศักดิ์
และวันที่ 3 ต.ค.2533 เป็นวันชิงประเภททีมเดี่ยว ก็เป็นการโคจรมาเจอกันระหว่างทีมไทย และ มาเลเซีย ที่ตอนนั้นฮึกเหิมอย่างมาก เพราะคว้าเหรียญทองทีมชุดไปแล้ว
ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีมมาเลเซีย เป็นฝ่ายนำตลอดทั้งสองเซต และก็ชนะไทยไปด้วยสกอร์ 2-0 เซต โดยเซตแรก 15-10 ใช้เวลา 50 นาที ขณะที่เซตที่สอง มาเลเซียชนะไปอีก 15-11 ใช้เวลา 37 นาที